งานราชการล่าสุด

เก็บขยะ ก็รวยได้ “ ไม่ได้อวดรวย “

17 ก.ค. 2558 เวลา 14:15 น. 4,062 ครั้ง

เก็บขยะ ก็รวยได้ “ ไม่ได้อวดรวย “



นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม

เก็บขยะ ก็รวยได้ “ ไม่ได้อวดรวย “



ปัจจุบันคนไทยมองอาชีพนี้ว่าเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยและไม่ค่อยให้เกียรติผู้ที่มีอาชีพเก็บขยะ แต่ในทางกลับกันผมกลับมาว่ามันคืออาชีพที่สุจริต ไม่ได้ไปลักขโมยใคร แต่มองอีกว่าเขาก็มีความสามารถของเขานั่นเอง มีภาพหนึ่งที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ เป็นรูปชายวัยประมาณ 15-18 ปี มีอาชีพเก็บขยะ เขานั้นได้มีรถจักรยายนต์เป็นพาหะนะในการที่จะพาเขาไปเก็บขยะในสถานที่ไกลๆ จากภาพแสดงให้เห็นว่าอาชีพนี้ก็สามารถเลี้ยงดูเขาได้ และทำให้เขามีเงินเก็บขึ้นมาได้

11698517_689813531124073_2559804717788943661_n

และอีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้คือ
เมื่อก่อนที่โรงเรียนจะมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีแฟน(ครอบครัว) เป็นคนขายอาหารที่โรงเรียน ตอนเย็นแกก็จะเอารถมาเก็บขวดพลาสติกที่โรงเรียน ได้ประมาณวันละ 1 กระสอบเห็นจะได้ ผมเห็นแกทำอย่างนี้ตลอด 6 ปีที่ผมเรียนอยู่ที่นั่น ทำโดยมิได้อายใครหรือคิดว่าจะมีใครมาดูถูก !! และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ 3 ปีต่อมาผมได้กลับบ้านและเห็นบ้านตั้งอยู่กลางทุ่งเป็นบ้านหลังใหญ่และอยู่กัน 3 คนครอบครัวอย่างมีความสุข !!
ผมจึงมองว่าเรานั้นอย่าดูถูกคนที่อาชีพเลยดีกว่า “ เพราะคุณค่าของคนนั้นเท่ากัน “ บางครั้งอาชีพนั้นสามารถทำเงินได้มากกว่าเราๆ ที่แต่งตัวดูดี เป็นพนักงานอ๊อฟฟิตด้วยซ้ำไป แต่ก็อย่างว่าคนเรานั้นเส้นทางชีวิตต่างกัน ทุกอย่างต้องมีองค์ประกอบที่ครบถึงจะเรียกว่าสังคม


งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงาน ( ชัยวัฒน์ วงศางาม. วารสารแรงงาน. )


 

ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน

ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ต้องทำงาน เนื่องจากการทำงานเป็นเครื่องมือเลี้ยงชีวิต และทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า จึงมีคำเปรียบเปรยที่น่าใส่ใจไว้คือ คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน เราทำงานอะไรคุณค่าของเราก็คือผลลัพท์ของงานที่เราทำ ใครที่มีความสนุกกับการทำงานนั้นคือคนที่มีความสุขอย่างน่าอิจฉา การทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า จุดหมายปลายทางหรือเป้าหมายในชีวิตการทำงานของเราเป็นอย่างไรก่อน มิฉะนั้นเราจะไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้นั้นได้ การเลือกงานทำหรือกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงาน ต้องคำนึงถึงว่าแท้จริงแล้วเราต้องการอะไรในชีวิต บนพื้นฐานของความชอบหรือความใฝ่ฝันของตนเอง งานนั้นถึงจะไปได้สวย

“สิ่งที่เราทำด้วยใจรักคือสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ใช่งานที่ให้ผลประโยชน์กับเรามากที่สุดก็ได้”

เมื่อเรารู้แล้วว่าเราชอบงานอะไร ก็เริ่มลงมือด้วยการกำหนดจุดมุ่งหมายปลายทางหรือความสำเร็จของงานให้ชัดเจน วางแผนอย่างรอบคอบ แล้วตัดสินใจมุ่งไปทิศทางนั้นทิศทางเดียว และที่สำคัญที่สุด จะต้องมีความเพียร คือความมุ่งมั่นที่มีเป้าหมายเด่นชัด ต้องอดทน ยืนหยัดจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ เพราะทุกๆ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักมีปัญหาและอุปสรรค เป็นเพื่อนร่วมทางเสมอ

ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้บัญญัติว่า ความเพียรคือความบากบั่น ความกล้าแข็ง พยายามจนกว่าจะประสบความสำเร็จ

ไม่มีสิงใดในโลกนี้ที่จะมาทดแทนความเพียรพยายามของคนเรา
พรสวรรค์ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่มีพรสวรรค์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จก็มีอยู่มากมายดาษดื่น
ความเฉลียวฉลาดก็ไม่ใช่ เพราะคนฉลาดที่ปราศจากรางวัลก็มีการกล่าวถึงและเปรียบเทียบมากมาย การศึกษาเรียนรู้เพียงอย่างเดียว ก็ไม่ใช่เช่นกัน
เพราะโลกนี้มีบุคคลที่เก่งเรียน แต่ถูกสังคมรังเกียจ เดียดฉันท์อยู่มากมาย
ความพยายามและความมุ่งมั่นต่างหาก ที่ทำให้คนเรามีความสามารถได้ทุกประการตามที่ใจปรารถนา

ในระหว่างการเดินทาง ดินโคลนอาจแปดเปื้อน
ถนนที่ยังสร้างไม่เสร็จ อาจทำให้เดินลำบาก
แม่น้ำที่ขวางกัน อาจทำให้เรานั่งลงร้องให้
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอเพียงมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ก็จะผ่านพ้นไปได้
เพราะปัญหาคือสิ่งที่ท้าทาย เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้น
ยิ่งเราประสบกับปัญหาแล้วเราสามารถแก้ปัญหาได้มากเพียงใด
ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จมากขึ้นตามลำดับ
การมองปัญหาและอุปสรรคเป็นเสมือนเพื่อนร่วมทาง จะทำให้เราทำงานได้อย่างสนุกสนาน

เคยได้ยินเสียงบ่นว่า เจ้านายให้งานเยอะมาก เหนื่อยกับการทำงาน งานยุ่งมากเพราะเจ้านายเรียกใช้ทั้งวัน จากผู้ที่เป็นลูกจ้าง ซึ่งความจริงแล้วคนที่ทำงานมากกว่าคนอื่นหรือเจ้านายเรียกใช้บ่อย แสดงว่าเจ้านายเขามองเห็นคุณค่าในตัวเรา ว่าเราเป็นคนที่มีความสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเรียกว่าทำงานได้ตรงตามเป้า ซึ่งสิ่งนี้ก็ส่งผลให้เรามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้นตามลำดับ เจ้านายเขาเห็นเรามีความสามารถเขาถึงได้เรียกใช้ เรา

คนที่เจ้านายไม่เคยเรียกใช้เลยสิ น่าจะต้องสำรวจตัวเองว่า ตนเองมีความพกพร่องประการใด หรือด้อยความสามารถตรงไหน ไม่ใช่เที่ยวอิจฉาตาร้อนคนที่ทำงานมากกว่าและเจริญก้าวหน้าเร็วกว่าตน แล้วไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิม ขอให้คิดเสียว่าถึงแม้เราได้รับมอบหมายงานให้ทำมากกว่าคนอื่นก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ

เคยอ่านคำสอนของสมเด็จพระพุทธาจารย์ โต พรหมรังสี ที่ว่า “บุญ เจ้า ไม่ เคย สร้าง ใคร ที่ ไหน จะ มา ช่วย เจ้า” ก็เหมือนกับชีวิตการทำงานของคนเรานี้แหละ หากงานไม่เคยทำ แล้วจะเอาคะแนนดีๆ หรืองานที่ได้รับมอบหมายแล้วไม่ค่อยมุ่งมั่นทุ่มเทแต่หวังอยากจะได้เงินอยากประสบความสำเร็จก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ มันดูขัดกันอยู่นะ ก็อย่างที่พูดกันจนติดปากว่า ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ขยันทำงานก็มีเงิน ขี้เกียจทำงานก็อยู่ที่เดิม หากเราขยันทำงานเต็มความสามารถของเรา ผลงานที่ออกมาก็จะมีประสิทธิภาพตามที่เราทุ่มเทไปแน่นอน

ลำบากจนเหงื่อออกทางขุมขน ดีกว่าขี้เกียจแล้วยากจน จนน้ำล้นออกทางตา

"ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" ผลงานก็คือสิ่งที่เราทำได้เมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก ลองมาคิดๆดูแล้ว งานไม่ได้หมายถึงผลงานซะทีเดียว มันหมายถึงสิ่งที่แสดงออกมาทั้งหมดจากการกระทำของคน สิ่งที่แสดงออกมามันมีค่ามีประโยชน์ นั่นแหละคือคุณค่าของชีวิต!!!

ที่มา : ชัยวัฒน์ วงศางาม. วารสารแรงงาน. ปีที่  6 ฉบับเดือน พฤษภาคม 2551
http://www.oknation.net/blog/wongsangam/2008/05/21/entry-2

เรียบเรียงโดย : jobthaidd.com

แชร์ข่าวนี้ ให้เพื่อนคุณ และติดตามเราได้ที่ Fanpage.
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
^