มะยงชิด ผลไม้มีดี ที่คุณควรรู้จัก

ว่ากันว่า “มะยง” คือ “มะปรางกลายพันธุ์” แต่มะยงนั้นจะมีขนาดผลที่ใหญ่กว่ามะปราง ถ้านึกไม่ออกก็ขนาดใหญ่กว่าไข่ไก่สักนิดค่ะ มะยงจะมีเปลือกหนาและเนื้อค่อนข้างแข็งสักหน่อย ตอนที่ผลยังดิบๆ นั้น จะมีผลสีเขียวเข้ม แต่เมื่อพอผลสุกดีแล้ว ผลมะยงจะมีสีส้ม รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ มะยงชิด และ มะยงห่าง พูดถึงมะยงชิด เราคงนึกถึงหญิงไทยสมัยก่อน เพราะรสชาติของมะยงชิดจะออกหวาน ๆ ซ่อนเปรี้ยวนิด ๆ ส่วน มะยงห่าง นั้น จะมีรสเปรี้ยวชัดกว่ามาก ปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการส่งออกมะยงชิดไปยังขายในตลาดโลก และ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในตลาดยุโรปด้วยค่ะ

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยชิม มะยงชิด ถ้าได้รู้ว่า ผลไม้รสดีนี้ มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายคงอยากจะหาซื้อมาทานกันบ้าง เริ่มกันจากผิวเนื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีนช่วยบำรุงสายตาและยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจกตา หากเรารับประทานเป็นประจำ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากมายในมะยงชิดจะช่วยให้ใบหน้าของเราไร้ริ้วรอย ดูอ่อนวัย ผิวพรรณกระชับขึ้น นอกจากนั้น มะยงชิดยังเต็มไปด้วยแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกและฟันของเราแข็งแรง ไม่เสี่ยงต่ออาการเลือดออกตามไรฟัน ด้วยความที่มะยงชิดมีรสเปรี้ยวจึงมีวิตามินซี และ กากใยสูง ทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น



หากอยากทดลองชิมความอร่อยของมะยงชิด คุณสามารถปอกเปลือกกินสดๆ เลยก็ได้ หรือ ถ้าหากอยากเพิ่มความกลมกล่อมเป็นเมนูขนมหวานคลายร้อน ก็จัดไปเลยค่ะ มะยงชิดลอยแก้ว วิธีทำไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่คุณนำมะยงชิดมาล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่น้ำลงไปให้ปริมาณพอ ๆ กับชิ้นเนื้อมะยงชิด และเติมน้ำตาลลงไปสัก 3 ช้อนโต๊ะค่ะ แล้วก็นำขึ้นต้มน้ำ ต้มไฟอ่อน ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด จากนั้นชิมรส แล้วคุณจะเพิ่มความหวานโดยเติมน้ำตาล หรือจะปรับรสชาติเติมเกลือ ให้มีรสหวานเจือเค็มนิด ๆ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ จากนั้นก็ตั้งทิ้งไว้จนน้ำเชื่อมเย็นดีแล้วค่อยใส่มะยงชิดลงไป แล้วนำไปแช่ตู้เย็นค่ะ จะแช่ข้ามคืนให้น้ำเข้าไปในเนื้อมะยงชิด หรือถ้าเวลาไม่เพียงพอ ก็ควรแช่ให้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำนะคะ พอจะยกเสิร์ฟก็ตักน้ำแข็งป่นใส่โรยลงไปหน่อย เพิ่มความเย็นสดชื่น ช่วยคลายร้อน หรือ จะทานปิดท้ายหลังมื้ออาหารก็น่าสนดี จริงมั๊ยคะ

บทความโดย : Jobthaidd.com