ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหน้าหมี หมู่ 5 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ มีเด็กน้อย 2 คน ตระเวนแสดงโชว์ความสามารถพิเศษ หาเงินช่วยเหลือครอบครัว จนสามารถซื้อรถ ซื้อที่ดิน ให้พ่อแม่ และยังเหลือเงินไว้เป็นทุนการศึกษาอีก ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ที่บ้านของ นางสกุณา สอนคง อายุ 46 ปี อาชีพเป็นครูสอนเด็กเล็กโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ และยังพบกับ ด.ญ.สิริณนี สอนคง หรือน้องซินนี่ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านช่องพลี ด.ช.สพล สอนคง หรือน้องยิปซี อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนเดียวกัน ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน
โดยทราบว่า น้องซินนี่ และน้องยิปซี เป็นเด็กที่มีความสามารถพิเศษ โดยตัวน้องซินนี่ มีความสามารถรำมโนราห์ เต้นลีลาศ และ เป่าแซกโซโฟน ส่วนน้องยิปซี สามารถเล่นฮูลาฮูป และควงไฟ ประกอบเสียงเพลง ทั้ง 2 พี่น้อง จะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน ไปแสดงความสามารถโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมบริเวณตลาดไนท์มาร์เก็ต หาดอ่าวนาง เริ่มแสดงโชว์มานาน 3 ปี ในแต่ละคืนสามารถหาเงินจากนักท่องเที่ยวได้คืนละ 1,000-3,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบางช่วงที่โรงแรม รีสอร์ทในพื้นที่ มาว่าจ้างให้ไปแสดงโชว์ ซึ่งจะได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 3,500 บาท อีกต่างหาก ทำให้ทั้งคู่สามารถเก็บเงินได้ในระยะ 3 ปี มากกว่า 650,000 บาท



ด้าน นางสกุณา เล่าว่า ลูกสาวคือน้องซินนี่ เริ่มไปฝึกรำมโนราห์มาตั้งแต่ตอนอายุได้ 6 ขวบ หลังจากรำเป็นก็บอกกับแม่ว่าอยากไปแสดงโชว์ แม่ก็พาไปรำโชว์นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในหาดอ่าวนางยามค่ำคืน ก็ได้เงินรางวัลจากนักท่องเที่ยวทุกครั้ง ต่อมาน้องคนเล็ก จึงอยากไปแสดงโชว์ด้วย ก็ไปหัดเรียนควงกระบองไฟ จากนั้นจึงตระเวนแสดงโชว์กันทุกคืน น้องทั้ง 2 คนสามารถหาเงินได้มากกว่า 1,000 บาท ทุกคืน จึงสอนให้ลูกๆ หัดทำบัญชีเงินรายได้ที่ได้มา และเปิดบัญชีให้กับลูกทั้ง 2 คน บางคืนที่ทางโรงแรมว่าจ้างให้ไปแสดง เคยได้สูงสุดถึงคืนละ 8,000 บาท ตลอด 3 ปี มานี้ ลูกทั้ง 2 คนสามารถหาเงินได้มากกว่า 600,000 บาท



โดย นำเงินที่ได้มาไปซื้อที่ดินมา 3 ไร่ ในพื้นที่ อ.เหนือคลอง โดยที่ดินที่ซื้อมาเป็นที่ดินราคาไม่แพงเพียง 30,000 บาท เพราะมีญาติๆ มาบอกขาย นอกจากนี้ยังซื้อรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส ไว้ 1 คัน เพื่อใช้ขับพาลูกไปแสดงตามงานต่างๆ โดยลูกๆ บอกว่าจะผ่อนรถเองเดือนละ 9,000 บาท และยังซื้อวัวเนื้อ ให้พ่อได้เลี้ยงอีก 6 ตัวในราคาตัวละ 10,000-20,000 บาท อีกด้วย

นางสกุณา เล่าต่อว่า ทุกอย่างที่ซื้อมา เป็นสิ่งที่ลูกๆ อยากซื้อให้ตนและสามี ไม่เคยบังคับให้ลูกซื้อ แต่เดิมตนและสามีมีรายได้เพียงเดือนละ 20,000 บาท แต่ช่วงหลังมานี้ ลูก ๆ สามารถทำรายได้มากกว่าเดือนละ 30,000-40,000 บาท ซึ่งตนและสามีรู้สึกภูมิใจกับลูกทั้ง 2 คนมาก นอกจากลูกจะช่วยหารายได้ให้ครอบครัวแล้ว การเรียนของลูกทั้ง 2 คน ยังมีผลการเรียนที่ดีด้วย ลูกสาวสอบได้ที่ 1 ของชั้นเรียนมาโดยตลอด ส่วนน้องชายคนเล็ก ก็สอบได้ที่ 2 ที่ 3 มาโดยตลอดเช่นกัน จึงอยากฝากให้เด็กๆ และเยาวชน ที่มีเวลาว่าง ให้ดูน้องทั้ง 2 คนเป็นแบบอย่าง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ก็จะสามารถหาเงินได้ สามารถช่วยครอบครัว และเป็นทุนไว้สำหรับศึกษาในอนาคตได้ด้วย.

ข่าวจาก https://www.one31.net/news/detail/18029