แม่พิมพ์ ใส่ชุดดำร้องเรียน เลื่อนเงินเดือนไม่เป็นธรรม เอื้อประโยชน์พวกพ้อง 6 ระดับ 2.2-4.0
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
อุดรธานี.แม่พิมพ์โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม แต่งชุดดำ ร้องผู้บริหารไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใสในการเลื่อนเงินเดือน ชี้ผู้บริหารประเมินเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มพวกพ้องคนสนิท และลุแก่อำนาจ
วันนี้ (13 มิถุนายน 2562) ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี คณะครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จำนวน 6 คน นำโดย นายศราวุธ ไหลหาโคตร และ น.ส.สุพักตร์ษา มุกดาม่วง ครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่ง อาทิ คลิปเสียง และเอกสารบันทึกชี้แจง ร้องขอความเป็นธรรม เรื่อง ความไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใสในการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม ครั้งที่ 1 (1 เมษายน 2562) กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี โดยมี นายเจษฎา ปานะถึก ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี รับเรื่อง
ข้อความร้องเรียนบางตอนระบุว่า การประเมินครั้งนี้มีรองผู้อำนวยการโรงเรียน อย่างน้อย 2 ใน 4 คน มีผลการประเมินการปฏิบัติงาน ในระดับ ดีเด่น ได้เลื่อนเงินเดือน ร้อยละ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาในการเอื้อ ผลประโยชน์เข้าหาตน ของคณะรองผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งใช้เม็ดเงินในการคิดคำนวณฐานเงินเดือนร่วมกับ ข้าราชการครูในโรงเรียน ผู้บังคับบัญชามีวิธีการประเมินในลักษณะที่ไม่ได้ทำในระบบเปิด กระทำในลักษณะปิดบังเป็นความลับทั้งหมด อาทิ เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองซึ่งคณะครูผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ไม่ทราบว่า เป็นผู้ใด ดังนั้น คณะผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงไม่ยอมรับในคณะกรรมการชุดนี้ เพราะถือเป็นการแต่งตั้งแบบ ไม่โปร่งใส, มีการแบ่งร้อยละการเลื่อนเงินเดือนถึง 6 ระดับ คือ ร้อยละ 2.2, 2.5, 2.6, 3.0, 3.5 และ สูงสุดที่ ร้อยละ 4 โดยไม่ได้มีการประกาศแจ้งให้ผู้รับการประเมินทราบ และผู้บังคับบัญชาไม่สามารถอธิบายได้ ว่าผู้ที่ได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.6, 3.0, 3.5 มีผลการปฏิบัติงานที่ดีกว่า ผู้ได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.5 อย่างไร, ไม่มีการประกาศรายชื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลปฏิบัติงานอยู่ใน ระดับดีเด่นและดีมากในที่เปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกัน มีแต่เพียงขั้นตอนการพิมพ์หนังสือแจ้งผลการเลื่อนเงินเดือน เฉพาะบุคคลเท่านั้น ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย
น.ส.สุพักตร์ษา มุกดาม่วง ตัวแทนครู เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชามีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างไม่เป็นธรรม เช่น หลังจากผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ ทราบผลการเลื่อนเงินเดือนที่แจ้งเฉพาะบุคคล (ทราบผล วันที่ 23 พฤษภาคม 2562) จึงได้สอบถามกันกับคุณครูท่านอื่นๆ และพบว่า ได้ผลการประเมินระดับ ดีมาก เหมือนกัน แต่ได้เลื่อนเงินเดือน อัตราร้อยละต่างกัน โดยผู้บังคับบัญชามีการกำหนดค่าร้อยละของการเลื่อนเงินเดือนไว้หลายค่า เช่น คะแนนประเมินในระดับ ดีมาก มีร้อยละการเลื่อนเงินเดือนถึง 3 ระดับ คือ ร้อยละ 2.5, 2.6, 3.0 ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงเกิดข้อสงสัยและได้สอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาว่าทำไมค่าร้อยละการเลื่อนเงินเดือนจึงมีหลายระดับ แต่ผู้บังคับบัญชาไม่สามารถหาเหตุผลอันเหมาะสมมาอธิบายข้อสงสัยนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงมีความประสงค์ขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือ เพื่อให้ท่านประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลผู้มีอำนาจโดยตรงในการให้ความเป็นธรรมอันเกี่ยวข้องกับประเด็น ร้องเรียน/ร้องทุกข์นี้โดยตรง ให้เข้ามาไต่สวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ และร้องขอให้ผู้มีอำนาจ (กศจ.อุดรธานี / ผอ.สพม.20) หรือ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง สั่งย้าย รองผู้อำนวยการ 2 คน คือ นายสมมาศ พรหมเจตน์ ตำแหน่ง รอง ผอ. กลุ่มบริหารงานวิชาการ และ นายอนุ สนิทภักดี ตำแหน่ง รอง ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล มีพฤติกรรมร่วมกันลุแก่อำนาจ และใช้อำนาจที่มีอยู่โดยมิชอบ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันการข่มขู่พยาน โดยเฉพาะ นายสมมาศ พรหมเจตน์ ซึ่งมีพฤติกรรมลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจเกิน ผอ.โรงเรียน เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีการข่มขู่ คุกคามครูอยู่เสมอ อีกทั้งใช้หลักการบริหารแบบสร้างความแตกแยกใน โรงเรียน ทำให้ครูเสียขวัญกำลังใจ และเพื่อเป็นการป้องกันการใช้อำนาจในฐานะรองผู้อำนวยการโรงเรียน ในการกลั่นแกล้งหรือคุกคามครูผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ ได้ในอนาคต
ขอบคุณข่าวจาก
วันนี้ (13 มิถุนายน 2562) ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี คณะครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จำนวน 6 คน นำโดย นายศราวุธ ไหลหาโคตร และ น.ส.สุพักตร์ษา มุกดาม่วง ครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่ง อาทิ คลิปเสียง และเอกสารบันทึกชี้แจง ร้องขอความเป็นธรรม เรื่อง ความไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใสในการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม ครั้งที่ 1 (1 เมษายน 2562) กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี โดยมี นายเจษฎา ปานะถึก ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี รับเรื่อง
ข้อความร้องเรียนบางตอนระบุว่า การประเมินครั้งนี้มีรองผู้อำนวยการโรงเรียน อย่างน้อย 2 ใน 4 คน มีผลการประเมินการปฏิบัติงาน ในระดับ ดีเด่น ได้เลื่อนเงินเดือน ร้อยละ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาในการเอื้อ ผลประโยชน์เข้าหาตน ของคณะรองผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งใช้เม็ดเงินในการคิดคำนวณฐานเงินเดือนร่วมกับ ข้าราชการครูในโรงเรียน ผู้บังคับบัญชามีวิธีการประเมินในลักษณะที่ไม่ได้ทำในระบบเปิด กระทำในลักษณะปิดบังเป็นความลับทั้งหมด อาทิ เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองซึ่งคณะครูผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ไม่ทราบว่า เป็นผู้ใด ดังนั้น คณะผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงไม่ยอมรับในคณะกรรมการชุดนี้ เพราะถือเป็นการแต่งตั้งแบบ ไม่โปร่งใส, มีการแบ่งร้อยละการเลื่อนเงินเดือนถึง 6 ระดับ คือ ร้อยละ 2.2, 2.5, 2.6, 3.0, 3.5 และ สูงสุดที่ ร้อยละ 4 โดยไม่ได้มีการประกาศแจ้งให้ผู้รับการประเมินทราบ และผู้บังคับบัญชาไม่สามารถอธิบายได้ ว่าผู้ที่ได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.6, 3.0, 3.5 มีผลการปฏิบัติงานที่ดีกว่า ผู้ได้เลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.5 อย่างไร, ไม่มีการประกาศรายชื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลปฏิบัติงานอยู่ใน ระดับดีเด่นและดีมากในที่เปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกัน มีแต่เพียงขั้นตอนการพิมพ์หนังสือแจ้งผลการเลื่อนเงินเดือน เฉพาะบุคคลเท่านั้น ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย
น.ส.สุพักตร์ษา มุกดาม่วง ตัวแทนครู เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชามีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างไม่เป็นธรรม เช่น หลังจากผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ ทราบผลการเลื่อนเงินเดือนที่แจ้งเฉพาะบุคคล (ทราบผล วันที่ 23 พฤษภาคม 2562) จึงได้สอบถามกันกับคุณครูท่านอื่นๆ และพบว่า ได้ผลการประเมินระดับ ดีมาก เหมือนกัน แต่ได้เลื่อนเงินเดือน อัตราร้อยละต่างกัน โดยผู้บังคับบัญชามีการกำหนดค่าร้อยละของการเลื่อนเงินเดือนไว้หลายค่า เช่น คะแนนประเมินในระดับ ดีมาก มีร้อยละการเลื่อนเงินเดือนถึง 3 ระดับ คือ ร้อยละ 2.5, 2.6, 3.0 ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงเกิดข้อสงสัยและได้สอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาว่าทำไมค่าร้อยละการเลื่อนเงินเดือนจึงมีหลายระดับ แต่ผู้บังคับบัญชาไม่สามารถหาเหตุผลอันเหมาะสมมาอธิบายข้อสงสัยนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ จึงมีความประสงค์ขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือ เพื่อให้ท่านประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลผู้มีอำนาจโดยตรงในการให้ความเป็นธรรมอันเกี่ยวข้องกับประเด็น ร้องเรียน/ร้องทุกข์นี้โดยตรง ให้เข้ามาไต่สวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ และร้องขอให้ผู้มีอำนาจ (กศจ.อุดรธานี / ผอ.สพม.20) หรือ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง สั่งย้าย รองผู้อำนวยการ 2 คน คือ นายสมมาศ พรหมเจตน์ ตำแหน่ง รอง ผอ. กลุ่มบริหารงานวิชาการ และ นายอนุ สนิทภักดี ตำแหน่ง รอง ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล มีพฤติกรรมร่วมกันลุแก่อำนาจ และใช้อำนาจที่มีอยู่โดยมิชอบ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันการข่มขู่พยาน โดยเฉพาะ นายสมมาศ พรหมเจตน์ ซึ่งมีพฤติกรรมลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจเกิน ผอ.โรงเรียน เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีการข่มขู่ คุกคามครูอยู่เสมอ อีกทั้งใช้หลักการบริหารแบบสร้างความแตกแยกใน โรงเรียน ทำให้ครูเสียขวัญกำลังใจ และเพื่อเป็นการป้องกันการใช้อำนาจในฐานะรองผู้อำนวยการโรงเรียน ในการกลั่นแกล้งหรือคุกคามครูผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ ได้ในอนาคต
ขอบคุณข่าวจาก
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมทรัพยากรน้ำ เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 68 อัตรา
กรมสรรพสามิต เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 123 อัตรา
กรมเจ้าท่า เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 43 อัตรา
หนังสือติวสอบ ก.พ. พร้อมติวและเฉลยข้อสอบจริง ก.พ. (ภาค ก) 67
สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก (Paper & Pencil) ประจำปี 2567
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมสรรพสามิต เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 123 อัตรา
กรมเจ้าท่า เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 43 อัตรา
หนังสือติวสอบ ก.พ. พร้อมติวและเฉลยข้อสอบจริง ก.พ. (ภาค ก) 67
สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก (Paper & Pencil) ประจำปี 2567
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!