ดีเดย์1มิ.ย. ขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ “กทม.-ภูเก็ต”เพิ่มสูงสุด

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
บอร์ดค่าจ้างนัดเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ 10 พ.ค.นี้ ปรับยกแผง 77 จังหวัดอัตราตั้งแต่ 2-10 บาท กทม.-ภูเก็ต ได้เพิ่มสูงสุด 10 บาท คาดค่าจ้างอัตราใหม่ประกาศใช้ 1 มิถุนายนนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงานเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่คณะกรรมการค่าจ้างกลางได้มีมติให้อนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ 46 จังหวัด กลับไปพิจารณา ทบทวน และส่งตัวเลขที่จะขอปรับขึ้นค่าจ้างมาที่อนุฯวิชาการเพื่อกลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 มี.ค.62
ล่าสุดปรากฏว่าทั้ง 46 จังหวัดยังยืนยันมติเดิม ไม่ขอปรับเงินค่าจ้างมายังคณะอนุกรรมการวิชาการ ซึ่งคณะอนุกรรมการได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 และมีมติให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใน 31 จังหวัด ที่คณะกรรมการค่าจ้างจังหวัด 31 จังหวัดเสนอในอัตรา 2-10 บาท/วัน ส่วน 46 จังหวัดที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไม่เสนอปรับขึ้นค่าจ้าง เห็นควรให้ปรับขึ้นในอัตรา 2 บาท/วัน
โดยจังหวัดที่ได้รับการเสนอให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดที่ 10 บาท/วัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต ปรับขึ้น 7 บาท/วัน ได้แก่ สมุทรปราการ ส่วนชลบุรี, ระยอง ให้ปรับขึ้น 5 บาท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ แล้ว ที่ประชุมอนุกรรมการมีมตินำเรื่องทั้งหมดเสนอบอร์ดค่าจ้างกลาง ซึ่งบอร์ดค่าจ้างกลางกำหนดจะจัดประชุมเพื่อพิจารณาวาระการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันที่ 10 พ.ค.62และหากบอร์ดค่าจ้างกลางเห็นว่า ตัวเลขการขอปรับขึ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรม ทั้งฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และมีมติเห็นชอบตามที่เสนอ คาดว่าจะสามารถเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์ถัดไป จากนั้นบอร์ดค่าจ้างกลางจะออกประกาศบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาจึงจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งเมื่อพิจารณากระบวนการขั้นตอนในทางปฏิบัติแล้ว คาดว่าบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่น่าจะประกาศใช้ได้วันที่ 1 มิ.ย.62 หรืออาจขยับออกไปตามความเหมาะสม
สำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 แบ่งเป็น 7 อัตรา คือ โดยปรับขึ้นจากเดิมตั้งแต่ 8-22 บาท สูงสุดอยู่ที่ 330 บาท/วันได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ ปริมณฑลอยู่ที่ 325 บาท/วัน ส่วนจังหวัดที่ได้ขึ้นน้อยที่สุด คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี อยู่ที่ 308 บาท/วัน
ข่าวจาก www.prachachat.net
แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงานเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่คณะกรรมการค่าจ้างกลางได้มีมติให้อนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ 46 จังหวัด กลับไปพิจารณา ทบทวน และส่งตัวเลขที่จะขอปรับขึ้นค่าจ้างมาที่อนุฯวิชาการเพื่อกลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 13 มี.ค.62
ล่าสุดปรากฏว่าทั้ง 46 จังหวัดยังยืนยันมติเดิม ไม่ขอปรับเงินค่าจ้างมายังคณะอนุกรรมการวิชาการ ซึ่งคณะอนุกรรมการได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 และมีมติให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใน 31 จังหวัด ที่คณะกรรมการค่าจ้างจังหวัด 31 จังหวัดเสนอในอัตรา 2-10 บาท/วัน ส่วน 46 จังหวัดที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไม่เสนอปรับขึ้นค่าจ้าง เห็นควรให้ปรับขึ้นในอัตรา 2 บาท/วัน
โดยจังหวัดที่ได้รับการเสนอให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดที่ 10 บาท/วัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต ปรับขึ้น 7 บาท/วัน ได้แก่ สมุทรปราการ ส่วนชลบุรี, ระยอง ให้ปรับขึ้น 5 บาท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ แล้ว ที่ประชุมอนุกรรมการมีมตินำเรื่องทั้งหมดเสนอบอร์ดค่าจ้างกลาง ซึ่งบอร์ดค่าจ้างกลางกำหนดจะจัดประชุมเพื่อพิจารณาวาระการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันที่ 10 พ.ค.62และหากบอร์ดค่าจ้างกลางเห็นว่า ตัวเลขการขอปรับขึ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรม ทั้งฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และมีมติเห็นชอบตามที่เสนอ คาดว่าจะสามารถเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์ถัดไป จากนั้นบอร์ดค่าจ้างกลางจะออกประกาศบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาจึงจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งเมื่อพิจารณากระบวนการขั้นตอนในทางปฏิบัติแล้ว คาดว่าบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่น่าจะประกาศใช้ได้วันที่ 1 มิ.ย.62 หรืออาจขยับออกไปตามความเหมาะสม
สำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2561 แบ่งเป็น 7 อัตรา คือ โดยปรับขึ้นจากเดิมตั้งแต่ 8-22 บาท สูงสุดอยู่ที่ 330 บาท/วันได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ ปริมณฑลอยู่ที่ 325 บาท/วัน ส่วนจังหวัดที่ได้ขึ้นน้อยที่สุด คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี อยู่ที่ 308 บาท/วัน
ข่าวจาก www.prachachat.net
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
สำนักงานศาลปกครอง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 25 อัตรา

กรมศุลกากร เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 21 อัตรา

ธ.ก.ส. รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงานการเงิน ระดับ 4 จำนวน 71 อัตราา

ธ.ก.ส. รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงานปฏิบัติการด้านคอมพิวเตอร์ ระดับ 4 จำนวน 40 อัตรา

กรมธนารักษ์ รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 20 อัตรา

สำนักงานศาลยุติธรรม รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ หลายอัตรา

สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 21 อัตรา

กรมปศุสัตว์ รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 86 อัตรา

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา

สมัครงาน การบินไทย 2568 เปิดรับสมัครพนักงาน หลายตำแหน่ง

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 1,180 อัตรา ประจำเดือน พฤศจิกายน 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

สำนักงานศาลปกครอง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 25 อัตรา

กรมศุลกากร เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 21 อัตรา

ธ.ก.ส. รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงานการเงิน ระดับ 4 จำนวน 71 อัตราา

ธ.ก.ส. รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงานปฏิบัติการด้านคอมพิวเตอร์ ระดับ 4 จำนวน 40 อัตรา

กรมธนารักษ์ รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 20 อัตรา

สำนักงานศาลยุติธรรม รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ หลายอัตรา

สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 21 อัตรา

กรมปศุสัตว์ รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 86 อัตรา

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา

สมัครงาน การบินไทย 2568 เปิดรับสมัครพนักงาน หลายตำแหน่ง

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 1,180 อัตรา ประจำเดือน พฤศจิกายน 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

