งานราชการล่าสุด

กยศ.ใช้ไม้เด็ด!ขีดเส้นตายวันจ่าย-ตัดเงินลูกหนี้

06 ก.ค. 2560 เวลา 18:57 น. 50,445 ครั้ง

กยศ.ใช้ไม้เด็ด!ขีดเส้นตายวันจ่าย-ตัดเงินลูกหนี้



นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
กยศ.ใช้ไม้เด็ด!ขีดเส้นตายวันจ่าย-ตัดเงินลูกหนี้

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเตรียมหักเงินเดือนลูกหนี้ พร้อมขีดเส้นตาย5ก.ค.นี้เป็นวันสุดท้ายของการชำระเงิน หากล่าช้าต้องเสียค่าปรับและถูกฟ้องร้องตามกฎหมาย


วันนี้ (5 ก.ค. 60) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เตรียมใช้มาตรการหักเงินเดือนลูกหนี้กับผู้กู้ยืมซึ่งมีหน้าที่ชำระเงินคืนหลังจากสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา โดยต้องชำระเงินคืนภายในวันที่ 5 ก.ค.ของทุกปี ซึ่งผู้ชำระเงินกู้สามารถตรวจสอบยอดหนี้ผ่านเว็บไซต์ กยศ.เพื่อชำระเงินให้ได้ยอดถูกต้องที่สุด จากนั้นให้กดพิมพ์รหัส – การชำระเงินหรือบาร์โคด นำไปชำระผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 10 บาท

ขณะที่ผู้ที่ชำระผ่านไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส และธนาคารที่กองทุน กยศ.กำหนด จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 20 บาท โดยในจำนวนนี้เป็นค่าธรรมเนียมจ่ายหน้าเคาน์เตอร์จำนวน 10 บาท ซึ่งหากชำระค่าธรรมเนียมไม่ครบ กยศ.จะนำไปคิดดอกเบี้ยเพื่อเรียกเก็บภายหลัง
นางสาวดวงแข ตันติตยาพงษ์ รองผู้จัดการฐานะรักษาการแทนผู้จัดการ กยศ.เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาประมาณ3 ล้านคน ซึ่งกำหนดครบชำระหนี้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ถือเป็นเส้นตายสุดท้ายของทุกๆปีที่ต้องชำระหนี้เงินกู้เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน หรือนักศึกษารุ่นน้อง ซึ่งหากชำระเงินกู้ล่าช้า ต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 12 – 18 ต่อปี รวมถึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน


อย่างไรก็ตาม จะมีการเริ่มใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 51 ให้บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน มีหน้าที่ต้องหักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ หากผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินไม่ได้หักเงินได้พึงประเมินและไม่ได้นำส่งหรือนำส่งแต่ไม่ครบตามจำนวนตามที่กองทุน กยศ. แจ้งให้ทราบ หรือหักและนำส่งเกินกำหนดระยะเวลา ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินต้องรับผิดชดใช้เงินที่ต้องนำส่งในส่วนของผู้กู้ยืมเงินตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของจำนวนเงินที่ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินยังไม่ได้นำส่ง หรือตามจำนวนที่ยังขาดไปแล้วแต่กรณี



ด้านนาย ปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีและบังคับคดี กองทุน กยศ.เปิดเผยว่า ได้เร่งตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลลูกหนี้ กยศ.ประมาณ 4,800,000 คน โดยเตรียมประสานไปยังหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนเพื่อทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง นำเงินส่งคืนกองทุน กยศ.

เบื้องต้น จะเริ่มหักรายได้ของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้กยศ.ค้างชำระหนี้ทั้งสิ้น 200,000 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 80,000 ล้านบาท จากนั้นจะประสานไปยังบริษัทเอกชนเพื่อหักรายได้ของลูกจ้าง ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้สามารถช่วยลดยอดหนี้ค้างชำระที่มีอยู่ร้อยละ 53ของจำนวนลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด 1,900,000 ราย มูลค่าหนี้รวม 62,000 ล้านบาท


ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สถานีข่าว TNN24: วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เวลา 17.29 น. 

แชร์ข่าวนี้ ให้เพื่อนคุณ และติดตามเราได้ที่ Fanpage.


แสดงความคิดเห็น :

- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
^