กยศ.ใช้ไม้เด็ด!ขีดเส้นตายวันจ่าย-ตัดเงินลูกหนี้

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
กยศ.ใช้ไม้เด็ด!ขีดเส้นตายวันจ่าย-ตัดเงินลูกหนี้
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเตรียมหักเงินเดือนลูกหนี้ พร้อมขีดเส้นตาย5ก.ค.นี้เป็นวันสุดท้ายของการชำระเงิน หากล่าช้าต้องเสียค่าปรับและถูกฟ้องร้องตามกฎหมาย
วันนี้ (5 ก.ค. 60) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เตรียมใช้มาตรการหักเงินเดือนลูกหนี้กับผู้กู้ยืมซึ่งมีหน้าที่ชำระเงินคืนหลังจากสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา โดยต้องชำระเงินคืนภายในวันที่ 5 ก.ค.ของทุกปี ซึ่งผู้ชำระเงินกู้สามารถตรวจสอบยอดหนี้ผ่านเว็บไซต์ กยศ.เพื่อชำระเงินให้ได้ยอดถูกต้องที่สุด จากนั้นให้กดพิมพ์รหัส – การชำระเงินหรือบาร์โคด นำไปชำระผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 10 บาท
ขณะที่ผู้ที่ชำระผ่านไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส และธนาคารที่กองทุน กยศ.กำหนด จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 20 บาท โดยในจำนวนนี้เป็นค่าธรรมเนียมจ่ายหน้าเคาน์เตอร์จำนวน 10 บาท ซึ่งหากชำระค่าธรรมเนียมไม่ครบ กยศ.จะนำไปคิดดอกเบี้ยเพื่อเรียกเก็บภายหลัง
นางสาวดวงแข ตันติตยาพงษ์ รองผู้จัดการฐานะรักษาการแทนผู้จัดการ กยศ.เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาประมาณ3 ล้านคน ซึ่งกำหนดครบชำระหนี้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ถือเป็นเส้นตายสุดท้ายของทุกๆปีที่ต้องชำระหนี้เงินกู้เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน หรือนักศึกษารุ่นน้อง ซึ่งหากชำระเงินกู้ล่าช้า ต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 12 – 18 ต่อปี รวมถึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม จะมีการเริ่มใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 51 ให้บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน มีหน้าที่ต้องหักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ หากผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินไม่ได้หักเงินได้พึงประเมินและไม่ได้นำส่งหรือนำส่งแต่ไม่ครบตามจำนวนตามที่กองทุน กยศ. แจ้งให้ทราบ หรือหักและนำส่งเกินกำหนดระยะเวลา ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินต้องรับผิดชดใช้เงินที่ต้องนำส่งในส่วนของผู้กู้ยืมเงินตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของจำนวนเงินที่ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินยังไม่ได้นำส่ง หรือตามจำนวนที่ยังขาดไปแล้วแต่กรณี
ด้านนาย ปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีและบังคับคดี กองทุน กยศ.เปิดเผยว่า ได้เร่งตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลลูกหนี้ กยศ.ประมาณ 4,800,000 คน โดยเตรียมประสานไปยังหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนเพื่อทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง นำเงินส่งคืนกองทุน กยศ.
เบื้องต้น จะเริ่มหักรายได้ของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้กยศ.ค้างชำระหนี้ทั้งสิ้น 200,000 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 80,000 ล้านบาท จากนั้นจะประสานไปยังบริษัทเอกชนเพื่อหักรายได้ของลูกจ้าง ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้สามารถช่วยลดยอดหนี้ค้างชำระที่มีอยู่ร้อยละ 53ของจำนวนลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด 1,900,000 ราย มูลค่าหนี้รวม 62,000 ล้านบาท
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สถานีข่าว TNN24: วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เวลา 17.29 น.
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเตรียมหักเงินเดือนลูกหนี้ พร้อมขีดเส้นตาย5ก.ค.นี้เป็นวันสุดท้ายของการชำระเงิน หากล่าช้าต้องเสียค่าปรับและถูกฟ้องร้องตามกฎหมาย
วันนี้ (5 ก.ค. 60) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เตรียมใช้มาตรการหักเงินเดือนลูกหนี้กับผู้กู้ยืมซึ่งมีหน้าที่ชำระเงินคืนหลังจากสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา โดยต้องชำระเงินคืนภายในวันที่ 5 ก.ค.ของทุกปี ซึ่งผู้ชำระเงินกู้สามารถตรวจสอบยอดหนี้ผ่านเว็บไซต์ กยศ.เพื่อชำระเงินให้ได้ยอดถูกต้องที่สุด จากนั้นให้กดพิมพ์รหัส – การชำระเงินหรือบาร์โคด นำไปชำระผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 10 บาท
ขณะที่ผู้ที่ชำระผ่านไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส และธนาคารที่กองทุน กยศ.กำหนด จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 20 บาท โดยในจำนวนนี้เป็นค่าธรรมเนียมจ่ายหน้าเคาน์เตอร์จำนวน 10 บาท ซึ่งหากชำระค่าธรรมเนียมไม่ครบ กยศ.จะนำไปคิดดอกเบี้ยเพื่อเรียกเก็บภายหลัง
นางสาวดวงแข ตันติตยาพงษ์ รองผู้จัดการฐานะรักษาการแทนผู้จัดการ กยศ.เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาประมาณ3 ล้านคน ซึ่งกำหนดครบชำระหนี้ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ถือเป็นเส้นตายสุดท้ายของทุกๆปีที่ต้องชำระหนี้เงินกู้เพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน หรือนักศึกษารุ่นน้อง ซึ่งหากชำระเงินกู้ล่าช้า ต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 12 – 18 ต่อปี รวมถึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม จะมีการเริ่มใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดยระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 51 ให้บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน มีหน้าที่ต้องหักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ หากผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินไม่ได้หักเงินได้พึงประเมินและไม่ได้นำส่งหรือนำส่งแต่ไม่ครบตามจำนวนตามที่กองทุน กยศ. แจ้งให้ทราบ หรือหักและนำส่งเกินกำหนดระยะเวลา ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินต้องรับผิดชดใช้เงินที่ต้องนำส่งในส่วนของผู้กู้ยืมเงินตามจำนวนที่กองทุน กยศ.แจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของจำนวนเงินที่ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินยังไม่ได้นำส่ง หรือตามจำนวนที่ยังขาดไปแล้วแต่กรณี
ด้านนาย ปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีและบังคับคดี กองทุน กยศ.เปิดเผยว่า ได้เร่งตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลลูกหนี้ กยศ.ประมาณ 4,800,000 คน โดยเตรียมประสานไปยังหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนเพื่อทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง นำเงินส่งคืนกองทุน กยศ.
เบื้องต้น จะเริ่มหักรายได้ของลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้กยศ.ค้างชำระหนี้ทั้งสิ้น 200,000 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 80,000 ล้านบาท จากนั้นจะประสานไปยังบริษัทเอกชนเพื่อหักรายได้ของลูกจ้าง ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้สามารถช่วยลดยอดหนี้ค้างชำระที่มีอยู่ร้อยละ 53ของจำนวนลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด 1,900,000 ราย มูลค่าหนี้รวม 62,000 ล้านบาท
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สถานีข่าว TNN24: วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เวลา 17.29 น.
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมศิลปากร เปิดรับสมัครเป็นพนักงานราชการทั่วไป 30 อัตรา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดรับสมัครพนักงานราชการ หลายอัตรา(จำนวนมาก) ทั่วประเทศ เช็กรายละเอียดที่นี่
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เปิดรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 60 อัตรา

กรมประมง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 20 อัตรา

ไปรษณีย์ไทย เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงาน 31 อัตรา

กรมบังคับคดี รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 18 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 16 - 30 มิถุนายน 2568

ไปรษณีย์ไทย เปิดรับสมัครนักเรียน วุฒิ ม.6 จำนวน 100 คน จบแล้วบรรจุทันที

กรมราชทัณฑ์ รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 36 อัตรา

สพฐ.แจ้งกำหนดการรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ประจำปี 2568 รับสมัคร 9-15 กรกฎาคม 2568

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง

กรมศิลปากร เปิดรับสมัครเป็นพนักงานราชการทั่วไป 30 อัตรา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดรับสมัครพนักงานราชการ หลายอัตรา(จำนวนมาก) ทั่วประเทศ เช็กรายละเอียดที่นี่

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เปิดรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 60 อัตรา

กรมประมง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 20 อัตรา

ไปรษณีย์ไทย เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงาน 31 อัตรา

กรมบังคับคดี รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 18 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 16 - 30 มิถุนายน 2568

ไปรษณีย์ไทย เปิดรับสมัครนักเรียน วุฒิ ม.6 จำนวน 100 คน จบแล้วบรรจุทันที

กรมราชทัณฑ์ รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 36 อัตรา

สพฐ.แจ้งกำหนดการรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ประจำปี 2568 รับสมัคร 9-15 กรกฎาคม 2568

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง
