4 สิ่งที่มักจะพบเจอในการสัมภาษณ์งานรอบสุดท้าย
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
4 สิ่งที่มักจะพบเจอในการสัมภาษณ์งานรอบสุดท้าย
หลายๆ ครั้งที่การสัมภาษณ์เพื่อพิจารณารับเข้าทำงาน จะมีการสัมภาษณ์หลายรอบ โดยเปลี่ยนผู้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ ตามความเกี่ยวข้องของตำแหน่งงานนั้นๆ ซึ่งส่งผลให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ต้องเจอกับทั้งคำถามและสถานการณ์ต่างๆ มากมาย หากเตรียมตัวมาดีก็คงทำได้ดี แต่หากไม่เตรียมตัวมาเลยแล้วเจอการสัมภาษณ์หลายๆ รอบแบบนี้ คงกดดันเป็นอย่างมาก จนอาจส่งผลให้เครียดและตอบคำถามได้ไม่ดี วันนี้ “มาสิ” จึงนำ 4 สิ่งที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย มาให้ดูกันเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมก่อนการไปสัมภาษณ์งานจริง
1.ให้บอกถึงจุดเด่น และจุดด้อยของเรา
การพูดถึงจุดเด่นของเรา ควรจะพูดเรื่องที่เป็นจุดเด่นหรือจุดดีที่สุดของเรา และหากสามารถนำจุดเด่นของเรามาประยุกต์ใช้กับงานที่เราจะสมัครได้ ย่อมสร้างความน่าสนใจให้เราได้อย่างมาก กลับกันหากเรานำเสนอจุดเด่นที่ไม่น่าสนใจหรือไม่สามารถนำมาใช้กับงานได้ เราก็อาจจะถูกประเมินได้ว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่เราสมัคร เพราะไม่สามารถดึงจุดเด่นของตัวเองมาใช้กับงานที่ทำได้นั่นเอง เช่น “เรามีจุดเด่นที่การพูดการเจรจา แต่ไปสมัครส่วนของการจัดทำเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประสานงานเลย จุดเด่นของเราก็จะไม่ถูกดึงมาใช้ในงานที่ทำได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เราไม่ผ่านการประเมินได้นั่นเอง”
เมื่อพูดถึงจุดดีแล้วจะไม่พูดถึงจุดด้อยก็คงไม่ได้ เราควรที่จะบอกจุดด้อยที่เราบอกควรเป็นที่กำลังจะปรับปรุงหรือเริ่มทำไปบ้างแล้ว รวมถึงเป็นจุดด้อยที่ไม่ส่งผลกระทบต่องาน แต่การบอกจุดด้อยของเราไปตรงๆ จะช่วยในการพิจารณาได้อย่างมาก เพราะผู้สัมภาษณ์จะได้พิจารณารู้ว่าจุดด้อยของเรานั้นส่งผลต่องานหรือไม่
2. คำถามที่จะดูจาก Resume แล้วถามเกี่ยวสิ่งที่เขียนลงในนั้น
เราควรจะทำการบ้านเกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนใน resume ที่ส่งไปสมัครงานให้ดี เพื่อที่จะตอบคำถามจากผู้สัมภาษณ์ได้ เพราะบางคนนั้นมีการจ้างวานหรือให้ผู้อื่นช่วยจัดทำ resume ให้ดูดี ดูน่าสนใจ แต่ไม่ได้มีการกลับมาอ่านหรือทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขียนใน resume ส่งผลให้ตอนสัมภาษณ์หากผู้สัมภาษณ์ถามข้อมูลจาก resume ที่ได้รับจากการสมัคร ทำให้เราตอบไมได้หรือตอบได้ไม่ชัดเจน จนส่งผลให้เกิดความน่าสงสัยแทนที่ความน่าเชื่อถือ เพราะ resume ของเราเองทำไมเราถึงตอบไม่ได้นั้นเอง
3. ส่วนของคำถามเฉพาะทางเกี่ยวกับงานที่สมัคร โดยจะแยกเป็นหมวดคร่าวๆ ได้ตามนี้
● เรามีความรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง?
○ เราควรจะนำเสนอความรู้ที่เรามีต่อผู้สัมภาษณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่เราสมัคร อาจจะรวมถึงความรู้อื่นๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่เราสมัครได้ โดยเราอาจจะมีตัวอย่างผลงานเก่าๆ มาประกอบกับการนำเสนอความรู้ของเรา เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
● บริษัทที่สมัครทำเกี่ยวกับอะไรบ้าง
○ คำถามนี้หากถูกถามในการสัมภาษณ์เมื่อไหร่ เราควรจะตอบให้ได้และตอบให้ดีด้วยครับ เพราะว่านั่นหมายถึงการทำการบ้านและการใส่ใจ ที่สามารถแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเราก็ควรทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์ให้ดี เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการได้งานของเรานั่นเอง
● เราสมัครตำแหน่งอะไร และตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง?
○ เป็นคำถามพื้นๆ แต่กลับแฝงความสำคัญในการสัมภาษณ์ไว้มากมาย เช่น แสดงถึงความสนใจในตัวงาน ดูความเข้าใจตัวงาน ความใส่ใจ การหาความรู้ เป็นต้น เพราะเป็นด่านสำคัญที่ผู้สัมภาษณ์จะใช้ในการพิจารณารับเข้าทำงานเลยทีเดียว เพราะหากคุณตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้ ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าผู้สัมภาษณ์จะให้คะแนนความสนใจในตัวงานติดลบอย่างแน่นอน เพราะมันหมายถึงความไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในงานนั่นเอง
● มีข้อสงสัยอะไรไหม?
○ คำถามง่ายๆ แต่แสดงถึงวิสัยทัศน์ในตัวได้เลยทีเดียว เพราะผู้สัมภาษณ์บางคนเชื่อว่า หากถามคำถามนี้แล้ว ผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่มีคำถามอะไรกลับมาเลย อาจจะถูกมองได้ไม่ใส่ใจในการสัมภาษณ์หรือการสนทนานี้ และอาจรวมถึงการไม่มีวิสัยทัศน์ด้วย เพราะผู้สัมภาษณ์อาจจะคาดหวังที่จะได้รับคำถามเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท หรือข้อสงสัยอื่นๆที่เกิดขึ้นระหว่างสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อที่ถามในการสัมภาษณ์ จึงเปิดโอกาสนี้ให้เราได้ถามรายละเอียดที่เราสงสัยเพิ่มเติมนั่นเอง
4. ทัศนคติการทำงานของเราเข้ากับทีมได้หรือไม่?
ส่วนนี้ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะแอบสังเกตเรา (ผู้ถูกสัมภาษณ์) จากคำพูด จากการตอบคำถาม รวมถึงการวางตัวของเราด้วย เพราะว่าการทำงานในบริษัทจะต้องทำงานกันเป็นทีม หากเรามีทัศนคติที่ตรงกับทีมทำให้เราเข้ากับทีมได้ง่าย สามารถประสานงานกันได้เร็วก็จะทำให้ผลงานได้ประสิทธิภาพมาก ตรงกันข้ามหากเราเข้ากับทีมไม่ได้ สื่อสารกับทีมไม่เข้าใจ ย่อมจะเกิดปัญหาในการทำงานมากว่าสร้างผลงาน นี่จึงเป็นอีกปัจจัยหลักในการคัดเลือกคนเข้าทำงานนั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : masii.com ( รวบรวมข้อมูลโดย www.jobthaidd.com )
หลายๆ ครั้งที่การสัมภาษณ์เพื่อพิจารณารับเข้าทำงาน จะมีการสัมภาษณ์หลายรอบ โดยเปลี่ยนผู้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ ตามความเกี่ยวข้องของตำแหน่งงานนั้นๆ ซึ่งส่งผลให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ต้องเจอกับทั้งคำถามและสถานการณ์ต่างๆ มากมาย หากเตรียมตัวมาดีก็คงทำได้ดี แต่หากไม่เตรียมตัวมาเลยแล้วเจอการสัมภาษณ์หลายๆ รอบแบบนี้ คงกดดันเป็นอย่างมาก จนอาจส่งผลให้เครียดและตอบคำถามได้ไม่ดี วันนี้ “มาสิ” จึงนำ 4 สิ่งที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย มาให้ดูกันเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมก่อนการไปสัมภาษณ์งานจริง
1.ให้บอกถึงจุดเด่น และจุดด้อยของเรา
การพูดถึงจุดเด่นของเรา ควรจะพูดเรื่องที่เป็นจุดเด่นหรือจุดดีที่สุดของเรา และหากสามารถนำจุดเด่นของเรามาประยุกต์ใช้กับงานที่เราจะสมัครได้ ย่อมสร้างความน่าสนใจให้เราได้อย่างมาก กลับกันหากเรานำเสนอจุดเด่นที่ไม่น่าสนใจหรือไม่สามารถนำมาใช้กับงานได้ เราก็อาจจะถูกประเมินได้ว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่เราสมัคร เพราะไม่สามารถดึงจุดเด่นของตัวเองมาใช้กับงานที่ทำได้นั่นเอง เช่น “เรามีจุดเด่นที่การพูดการเจรจา แต่ไปสมัครส่วนของการจัดทำเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประสานงานเลย จุดเด่นของเราก็จะไม่ถูกดึงมาใช้ในงานที่ทำได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เราไม่ผ่านการประเมินได้นั่นเอง”
เมื่อพูดถึงจุดดีแล้วจะไม่พูดถึงจุดด้อยก็คงไม่ได้ เราควรที่จะบอกจุดด้อยที่เราบอกควรเป็นที่กำลังจะปรับปรุงหรือเริ่มทำไปบ้างแล้ว รวมถึงเป็นจุดด้อยที่ไม่ส่งผลกระทบต่องาน แต่การบอกจุดด้อยของเราไปตรงๆ จะช่วยในการพิจารณาได้อย่างมาก เพราะผู้สัมภาษณ์จะได้พิจารณารู้ว่าจุดด้อยของเรานั้นส่งผลต่องานหรือไม่
2. คำถามที่จะดูจาก Resume แล้วถามเกี่ยวสิ่งที่เขียนลงในนั้น
เราควรจะทำการบ้านเกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนใน resume ที่ส่งไปสมัครงานให้ดี เพื่อที่จะตอบคำถามจากผู้สัมภาษณ์ได้ เพราะบางคนนั้นมีการจ้างวานหรือให้ผู้อื่นช่วยจัดทำ resume ให้ดูดี ดูน่าสนใจ แต่ไม่ได้มีการกลับมาอ่านหรือทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขียนใน resume ส่งผลให้ตอนสัมภาษณ์หากผู้สัมภาษณ์ถามข้อมูลจาก resume ที่ได้รับจากการสมัคร ทำให้เราตอบไมได้หรือตอบได้ไม่ชัดเจน จนส่งผลให้เกิดความน่าสงสัยแทนที่ความน่าเชื่อถือ เพราะ resume ของเราเองทำไมเราถึงตอบไม่ได้นั้นเอง
3. ส่วนของคำถามเฉพาะทางเกี่ยวกับงานที่สมัคร โดยจะแยกเป็นหมวดคร่าวๆ ได้ตามนี้
● เรามีความรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง?
○ เราควรจะนำเสนอความรู้ที่เรามีต่อผู้สัมภาษณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่เราสมัคร อาจจะรวมถึงความรู้อื่นๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่เราสมัครได้ โดยเราอาจจะมีตัวอย่างผลงานเก่าๆ มาประกอบกับการนำเสนอความรู้ของเรา เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
● บริษัทที่สมัครทำเกี่ยวกับอะไรบ้าง
○ คำถามนี้หากถูกถามในการสัมภาษณ์เมื่อไหร่ เราควรจะตอบให้ได้และตอบให้ดีด้วยครับ เพราะว่านั่นหมายถึงการทำการบ้านและการใส่ใจ ที่สามารถแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเราก็ควรทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์ให้ดี เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการได้งานของเรานั่นเอง
● เราสมัครตำแหน่งอะไร และตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง?
○ เป็นคำถามพื้นๆ แต่กลับแฝงความสำคัญในการสัมภาษณ์ไว้มากมาย เช่น แสดงถึงความสนใจในตัวงาน ดูความเข้าใจตัวงาน ความใส่ใจ การหาความรู้ เป็นต้น เพราะเป็นด่านสำคัญที่ผู้สัมภาษณ์จะใช้ในการพิจารณารับเข้าทำงานเลยทีเดียว เพราะหากคุณตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้ ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าผู้สัมภาษณ์จะให้คะแนนความสนใจในตัวงานติดลบอย่างแน่นอน เพราะมันหมายถึงความไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในงานนั่นเอง
● มีข้อสงสัยอะไรไหม?
○ คำถามง่ายๆ แต่แสดงถึงวิสัยทัศน์ในตัวได้เลยทีเดียว เพราะผู้สัมภาษณ์บางคนเชื่อว่า หากถามคำถามนี้แล้ว ผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่มีคำถามอะไรกลับมาเลย อาจจะถูกมองได้ไม่ใส่ใจในการสัมภาษณ์หรือการสนทนานี้ และอาจรวมถึงการไม่มีวิสัยทัศน์ด้วย เพราะผู้สัมภาษณ์อาจจะคาดหวังที่จะได้รับคำถามเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท หรือข้อสงสัยอื่นๆที่เกิดขึ้นระหว่างสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อที่ถามในการสัมภาษณ์ จึงเปิดโอกาสนี้ให้เราได้ถามรายละเอียดที่เราสงสัยเพิ่มเติมนั่นเอง
4. ทัศนคติการทำงานของเราเข้ากับทีมได้หรือไม่?
ส่วนนี้ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะแอบสังเกตเรา (ผู้ถูกสัมภาษณ์) จากคำพูด จากการตอบคำถาม รวมถึงการวางตัวของเราด้วย เพราะว่าการทำงานในบริษัทจะต้องทำงานกันเป็นทีม หากเรามีทัศนคติที่ตรงกับทีมทำให้เราเข้ากับทีมได้ง่าย สามารถประสานงานกันได้เร็วก็จะทำให้ผลงานได้ประสิทธิภาพมาก ตรงกันข้ามหากเราเข้ากับทีมไม่ได้ สื่อสารกับทีมไม่เข้าใจ ย่อมจะเกิดปัญหาในการทำงานมากว่าสร้างผลงาน นี่จึงเป็นอีกปัจจัยหลักในการคัดเลือกคนเข้าทำงานนั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : masii.com ( รวบรวมข้อมูลโดย www.jobthaidd.com )
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 361 อัตรา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 6,321 อัตรา
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตรา
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 361 อัตรา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 6,321 อัตรา
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตรา
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!