เด็กไทยวันนี้!! นักวิชาการจุฬาฯ แฉสถานการณ์เด็กไทยมีปัจจัยเสี่ยง 10 ด้าน ‘ความรุนแรง-แม่วัยใส-ยาเสพติด’

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
เด็กไทยวันนี้!! นักวิชาการจุฬาฯ แฉสถานการณ์เด็กไทยมีปัจจัยเสี่ยง 10 ด้าน ‘ความรุนแรง-แม่วัยใส-ยาเสพติด’
เด็กไทยทุกวันนี้น่าเป้นห่วงมาก บางครั้งเพราะเรารักลูกมากเกินไปหรือไม่ จนไม่ให้ลูกทำอะไรและมีเวลาไปอยู่กับเพื่อนมากกว่าอยู่กับครอบครัว ..... โดยหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ วันที่: 6 ม.ค. 60 เวลา: 18:12 น. ได้เผยแพร่คำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่งว่า
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายสมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรมด้านเด็กและเยาวชน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการติดตาม เฝ้าระวัง ลงภาคสนาม การวิจัย และประมวลข่าวเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน
พบว่าสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยง 10 เรื่อง และสถานการณ์เด่น 10 ด้าน มีดังนี้ ปัจจัยเสี่ยง และผลกระทบด้านลบ 10 เรื่อง คือ
1.ความรุนแรงปรากฎในหมู่เด็กและเยาวชนทุกระดับจนยากแก่การควบคุม และแก้ไขให้ดีขึ้น เด็กอาชีวะตีกัน เด็กแว้น สก๊อย เด็กทำร้ายรุนแรงสาหัส
2.แม่วัยใส เด็กหญิงตั้งครรภ์ในวัยเรียน ปัญหาไม่ลดลง ยังติดอันดับ 2 ของโลกเหมือนเดิม การสอนเพศศึกษาล้มเหลว ล้าสมัย ไม่ทันกับสถานการณ์ที่มีอยู่
3.ยาเสพติดกลับมาแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียนมากขึ้น กระบวนการสามารถแทรกซึมเข้าไปในโรงเรียน สถานศึกษาได้ ไม่มีใครกล้าขัดขวาง เสี่ยงอันตรายมาก
4.เด็กเรียนรู้แท็บเล็ต เล่นเกม การ์ตูนได้คล่องแคล่วว่องไว ครอบครัวไทยป้อนแท็บเล็ตเด็กอายุ 2-3 ขวบ ไม่ให้ซุกซน มีปรากฎพบเห็นแทบทุกแห่ง
5.เด็กและเยาวชนอยู่กับสังคมก้มหน้า วันละ 7-8 ชั่วโมง ใช้เพื่อพูดคุย เล่นไลน์ เฟสบุ๊ค มากกว่าการเรียนรู้ ศึกษาด้วยตนเอง
6.เด็กและเยาวชนขาดวินัยอย่างรุนแรง
7.เด็กเรียนรู้ไม่มีความสุข เครียด กดดัน นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ไม่เกิดขึ้น มีการติวโอเน็ต PISA อย่างเอาเป็นเอาตาย เด็กยังถูกขังในห้องเรียน 200 วันใน 1 ปี
8.ร้านขายเหล้า เบียร์ บุหรี่ รอบสถาบันการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างหน้าตกใจ เกิดนักดื่ม นักสูบหน้าใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นหญิง
9.มีเด็กยากจนด้อยโอกาส กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่การเป็นเหยื่อ และเครื่องมือทางเพศ ยาเสพติด แรงงานเด็ก ขอทานเด็ก โสเภณีเด็กเพิ่มขึ้นเงียบๆ และ
10.เด็กไทยเกิดน้อยลงแต่ด้อยคุณภาพ
นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์เด่น 10 ด้าน คือ
1.เด็กและเยาวชนเห็นแบบอย่างเรื่องราวต้นแบบของรัชกาลที่ 9 พร้อมน้อมรับเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
2.นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญนโยบายด้านการศึกษา คุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนมาก รัฐบาลทุ่มเทเต็มที่แม้จะยังไม่เกิดผลเท่าที่ควร
3.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีหลายมาตราในด้านการศึกษา เด็กปฐมวัย กองทุนครู และเด็กยากจน
ด้อยโอกาส สนับสนุนครอบครัวมีรายได้น้อย 600 บาทต่อเดือน
4.เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าคิดนอกกรอบ มีเสรีภาพมากขึ้น ผ่าน Social Medias
5.มั่นใจตนเองแบบสากล การก้าวสู่นานาชาติโดดเด่นจำนวนมากขึ้น กีฬา แข่งขันวิชาการโอลิมปิก
6.เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่กระตือรือร้นต่อสิ่งแวดล้อม การเมืองประชาธิปไตย จิตอาสา จิตสาธารณะ
7.เด็กหญิงและเด็กชายมีความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น
8.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างงาน และผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองได้
9.เป็นกลุ่ม Gen Z ที่แตกต่างจากเด็กกลุ่มเดียวกันทั่วโลก และ
10.เรียนรู้ ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของเด็กวัยนี้ต่ออนาคตประเทศชาติ
“วันเด็กเราทุ่มเทปรนเปรอให้ความสำคัญมาก แต่วันอื่นๆ เด็กแทบไม่ได้เอาใจใส่ ถูกปล่อยปละละเลยจนค่อนข้างเสี่ยง รัฐบาลต้องมีตัวแทนของเสียงเด็กและเยาวชนมากขึ้น ฟังเสียงเด็กเป็นแล้วจะรู้ว่าเด็กและเยาวชนไทยมีศักยภาพสูงในทุกด้าน ทุกกิจกรรม ไม่แพ้เด็กใครในโลก และภูมิภาคนี้” นายสมพงษ์กล่าว
เนื้อข่าวจาก มิติชนออนไลน์ วันที่: 6 ม.ค. 60 เวลา: 18:12 น.
เด็กไทยทุกวันนี้น่าเป้นห่วงมาก บางครั้งเพราะเรารักลูกมากเกินไปหรือไม่ จนไม่ให้ลูกทำอะไรและมีเวลาไปอยู่กับเพื่อนมากกว่าอยู่กับครอบครัว ..... โดยหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ วันที่: 6 ม.ค. 60 เวลา: 18:12 น. ได้เผยแพร่คำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่งว่า
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายสมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรมด้านเด็กและเยาวชน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการติดตาม เฝ้าระวัง ลงภาคสนาม การวิจัย และประมวลข่าวเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน
พบว่าสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยง 10 เรื่อง และสถานการณ์เด่น 10 ด้าน มีดังนี้ ปัจจัยเสี่ยง และผลกระทบด้านลบ 10 เรื่อง คือ
1.ความรุนแรงปรากฎในหมู่เด็กและเยาวชนทุกระดับจนยากแก่การควบคุม และแก้ไขให้ดีขึ้น เด็กอาชีวะตีกัน เด็กแว้น สก๊อย เด็กทำร้ายรุนแรงสาหัส
2.แม่วัยใส เด็กหญิงตั้งครรภ์ในวัยเรียน ปัญหาไม่ลดลง ยังติดอันดับ 2 ของโลกเหมือนเดิม การสอนเพศศึกษาล้มเหลว ล้าสมัย ไม่ทันกับสถานการณ์ที่มีอยู่
3.ยาเสพติดกลับมาแพร่ระบาดในกลุ่มนักเรียนมากขึ้น กระบวนการสามารถแทรกซึมเข้าไปในโรงเรียน สถานศึกษาได้ ไม่มีใครกล้าขัดขวาง เสี่ยงอันตรายมาก
4.เด็กเรียนรู้แท็บเล็ต เล่นเกม การ์ตูนได้คล่องแคล่วว่องไว ครอบครัวไทยป้อนแท็บเล็ตเด็กอายุ 2-3 ขวบ ไม่ให้ซุกซน มีปรากฎพบเห็นแทบทุกแห่ง
5.เด็กและเยาวชนอยู่กับสังคมก้มหน้า วันละ 7-8 ชั่วโมง ใช้เพื่อพูดคุย เล่นไลน์ เฟสบุ๊ค มากกว่าการเรียนรู้ ศึกษาด้วยตนเอง
6.เด็กและเยาวชนขาดวินัยอย่างรุนแรง
7.เด็กเรียนรู้ไม่มีความสุข เครียด กดดัน นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ไม่เกิดขึ้น มีการติวโอเน็ต PISA อย่างเอาเป็นเอาตาย เด็กยังถูกขังในห้องเรียน 200 วันใน 1 ปี
8.ร้านขายเหล้า เบียร์ บุหรี่ รอบสถาบันการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างหน้าตกใจ เกิดนักดื่ม นักสูบหน้าใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นหญิง
9.มีเด็กยากจนด้อยโอกาส กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่การเป็นเหยื่อ และเครื่องมือทางเพศ ยาเสพติด แรงงานเด็ก ขอทานเด็ก โสเภณีเด็กเพิ่มขึ้นเงียบๆ และ
10.เด็กไทยเกิดน้อยลงแต่ด้อยคุณภาพ
นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์เด่น 10 ด้าน คือ
1.เด็กและเยาวชนเห็นแบบอย่างเรื่องราวต้นแบบของรัชกาลที่ 9 พร้อมน้อมรับเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
2.นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญนโยบายด้านการศึกษา คุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนมาก รัฐบาลทุ่มเทเต็มที่แม้จะยังไม่เกิดผลเท่าที่ควร
3.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีหลายมาตราในด้านการศึกษา เด็กปฐมวัย กองทุนครู และเด็กยากจน
ด้อยโอกาส สนับสนุนครอบครัวมีรายได้น้อย 600 บาทต่อเดือน
4.เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าคิดนอกกรอบ มีเสรีภาพมากขึ้น ผ่าน Social Medias
5.มั่นใจตนเองแบบสากล การก้าวสู่นานาชาติโดดเด่นจำนวนมากขึ้น กีฬา แข่งขันวิชาการโอลิมปิก
6.เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่กระตือรือร้นต่อสิ่งแวดล้อม การเมืองประชาธิปไตย จิตอาสา จิตสาธารณะ
7.เด็กหญิงและเด็กชายมีความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น
8.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างงาน และผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองได้
9.เป็นกลุ่ม Gen Z ที่แตกต่างจากเด็กกลุ่มเดียวกันทั่วโลก และ
10.เรียนรู้ ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของเด็กวัยนี้ต่ออนาคตประเทศชาติ
“วันเด็กเราทุ่มเทปรนเปรอให้ความสำคัญมาก แต่วันอื่นๆ เด็กแทบไม่ได้เอาใจใส่ ถูกปล่อยปละละเลยจนค่อนข้างเสี่ยง รัฐบาลต้องมีตัวแทนของเสียงเด็กและเยาวชนมากขึ้น ฟังเสียงเด็กเป็นแล้วจะรู้ว่าเด็กและเยาวชนไทยมีศักยภาพสูงในทุกด้าน ทุกกิจกรรม ไม่แพ้เด็กใครในโลก และภูมิภาคนี้” นายสมพงษ์กล่าว
เนื้อข่าวจาก มิติชนออนไลน์ วันที่: 6 ม.ค. 60 เวลา: 18:12 น.
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
ธ.ก.ส. เปิดรรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงาน 1,380 อัตรา ประจำปี 2568

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 17 อัตรา

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเข้าราชการ 35 อัตรา

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 116 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง

ธ.ก.ส. เปิดรรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงาน 1,380 อัตรา ประจำปี 2568

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 17 อัตรา

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเข้าราชการ 35 อัตรา

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 116 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง
