ขยายเวลาโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อย ถึง 31 มกราคม 2560 อีกกว่า 1 ล้านคน

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
ขยายเวลาโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อย ถึง 31 มกราคม 2560 อีกกว่า 1 ล้านคน
ครม.ขยายเวลาโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยถึง 31 ม.ค.60 จาก 30 ธ.ค. ชี้ต้องตรวจคุณสมบัติให้ชัดอีกกว่า 1 ล้านคน ขณะที่บางรายยังไม่มีบัญชีธนาคาร
เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ในโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งดำเนินการโดย 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นการให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า จำนวน 1.5-3 พันบาท ให้กับผู้มีรายได้น้อย
โดยจนถึงล่าสุดได้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว จำนวน 6.1 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท จากจำนวนผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 7 ล้านราย โดยในจำนวนที่เหลืออีกกว่า 9 แสนรายนั้น หน่วยงานที่ดำเนินการจ่ายเงินนั้นยืนยันว่า จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2559
แต่หากย้อนกลับมาดูข้อมูลในช่วงที่มีการเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 8.3 ล้านราย และเมื่อกรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบสิทธิอย่างละเอียดแล้ว กลับพบว่า ในจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด มีกว่า 3 แสนรายที่ไม่ผ่านเกณฑ์
ในรายละเอียดส่วนนีพบว่า จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด มีผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 8.04 ล้านราย ส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์กว่า 3 แสนรายนั้น พบว่า กว่า 2.3-2.4 แสนราย ไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติ นั่นคือ มีรายได้เกินกว่า 1 แสนบาทต่อปี นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ที่มาลงทะเบียนแล้วเสียชีวิตไปแล้วอีกกว่า 9.6 พันราย และอีกกว่า 400-500 ราย เป็นบุคคลต่างด้าว แต่ในจำนวนผู้ลงทะเบียนในโครงการเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 8 ล้านรายนั้น ก็ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบสิทธิตาม “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” แล้วเพียง 7 ล้านรายเท่านั้น ส่วนอีก 1 ล้านรายยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ปัญหาของ 1 ล้านรายที่ยังตกค้าง จนอาจทำให้การจ่ายเงินตาม “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ไม่ทันตามกำหนดของรัฐบาล คือต้องจบภายใน 30 ธ.ค2559 นั้น คือ บางรายยังมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ตรงกับที่ลงทะเบียน บางรายไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือบางรายยังติดปัญหาเรื่องการไม่มีบัญชีเงินฝากสำหรับรับโอนเงิน
ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบเรื่องนี้เตรียมเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาในการจ่ายเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย 1 ล้านรายนี้ออกไปจนถึง ม.ค.2560 โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปติดตามกันต่อว่า ครม.จะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
แม้ว่าที่ผ่านมา “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.การคลัง ได้พยายามชี้แจงให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเดิม คือวันที่ 30 ธ.ค.นี้ โดยมองว่า “ไม่มีความจำเป็นจะต้องขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการดังกล่าวออกไป เพราะวัตถุประสงค์ของเงินช่วยเหลือ จำนวน 1.5-3 พันบาท ที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยนั้น เพื่อต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง และเพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ขณะที่ภาคเอกชนได้ออกมาประเมินความเป็นไปได้และความสำเร็จของ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ของรัฐบาลในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เงินที่ส่งไปถึงมือประชาชนนี้ อาจไม่ได้กลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ผ่านการจับจ่ายใช้สอยทั้งหมด แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่มากก็น้อยที่จะถูกนำไปเพื่อใช้หนี้สินทั้งในและนอกระบบ
ความพยายามของรัฐบาลส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังซื้อ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หลังจากที่ชะลอตัวไปอยู่ช่วงหนึ่ง จึงได้มีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อ “กระเพื่อม” การใช้จ่ายของประชาชนให้ฟื้นขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปลายปี ที่คาดกันว่าอานิสงส์จะส่งยาวไปถึงต้นปีหน้าด้วย
สำหรับ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่หวังว่าจะช่วยเพิ่มอัตราส่วนการอุปโภคบริโภคภาคประชาชนให้สูงขึ้น และก็ถือเป็นความหวังของประชาชนฐานรากที่มีรายได้ไม่สูงในช่วงที่เศรษฐกิจอาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ให้มีเงินเพิ่มเข้ามาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง.
ขอบคุณเนื้อข่าวจาก @ ไทยโพส
ครม.ขยายเวลาโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยถึง 31 ม.ค.60 จาก 30 ธ.ค. ชี้ต้องตรวจคุณสมบัติให้ชัดอีกกว่า 1 ล้านคน ขณะที่บางรายยังไม่มีบัญชีธนาคาร
เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ในโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งดำเนินการโดย 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นการให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า จำนวน 1.5-3 พันบาท ให้กับผู้มีรายได้น้อย
โดยจนถึงล่าสุดได้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว จำนวน 6.1 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท จากจำนวนผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิเรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น 7 ล้านราย โดยในจำนวนที่เหลืออีกกว่า 9 แสนรายนั้น หน่วยงานที่ดำเนินการจ่ายเงินนั้นยืนยันว่า จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2559
แต่หากย้อนกลับมาดูข้อมูลในช่วงที่มีการเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 8.3 ล้านราย และเมื่อกรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบสิทธิอย่างละเอียดแล้ว กลับพบว่า ในจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด มีกว่า 3 แสนรายที่ไม่ผ่านเกณฑ์
ในรายละเอียดส่วนนีพบว่า จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด มีผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 8.04 ล้านราย ส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์กว่า 3 แสนรายนั้น พบว่า กว่า 2.3-2.4 แสนราย ไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติ นั่นคือ มีรายได้เกินกว่า 1 แสนบาทต่อปี นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ที่มาลงทะเบียนแล้วเสียชีวิตไปแล้วอีกกว่า 9.6 พันราย และอีกกว่า 400-500 ราย เป็นบุคคลต่างด้าว แต่ในจำนวนผู้ลงทะเบียนในโครงการเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 8 ล้านรายนั้น ก็ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบสิทธิตาม “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” แล้วเพียง 7 ล้านรายเท่านั้น ส่วนอีก 1 ล้านรายยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ปัญหาของ 1 ล้านรายที่ยังตกค้าง จนอาจทำให้การจ่ายเงินตาม “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ไม่ทันตามกำหนดของรัฐบาล คือต้องจบภายใน 30 ธ.ค2559 นั้น คือ บางรายยังมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ตรงกับที่ลงทะเบียน บางรายไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือบางรายยังติดปัญหาเรื่องการไม่มีบัญชีเงินฝากสำหรับรับโอนเงิน
ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบเรื่องนี้เตรียมเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาในการจ่ายเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย 1 ล้านรายนี้ออกไปจนถึง ม.ค.2560 โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปติดตามกันต่อว่า ครม.จะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
แม้ว่าที่ผ่านมา “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.การคลัง ได้พยายามชี้แจงให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเดิม คือวันที่ 30 ธ.ค.นี้ โดยมองว่า “ไม่มีความจำเป็นจะต้องขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการดังกล่าวออกไป เพราะวัตถุประสงค์ของเงินช่วยเหลือ จำนวน 1.5-3 พันบาท ที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยนั้น เพื่อต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง และเพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ขณะที่ภาคเอกชนได้ออกมาประเมินความเป็นไปได้และความสำเร็จของ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ของรัฐบาลในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เงินที่ส่งไปถึงมือประชาชนนี้ อาจไม่ได้กลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ผ่านการจับจ่ายใช้สอยทั้งหมด แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่มากก็น้อยที่จะถูกนำไปเพื่อใช้หนี้สินทั้งในและนอกระบบ
ความพยายามของรัฐบาลส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังซื้อ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หลังจากที่ชะลอตัวไปอยู่ช่วงหนึ่ง จึงได้มีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อ “กระเพื่อม” การใช้จ่ายของประชาชนให้ฟื้นขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปลายปี ที่คาดกันว่าอานิสงส์จะส่งยาวไปถึงต้นปีหน้าด้วย
สำหรับ “มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย” ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่หวังว่าจะช่วยเพิ่มอัตราส่วนการอุปโภคบริโภคภาคประชาชนให้สูงขึ้น และก็ถือเป็นความหวังของประชาชนฐานรากที่มีรายได้ไม่สูงในช่วงที่เศรษฐกิจอาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ให้มีเงินเพิ่มเข้ามาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง.
ขอบคุณเนื้อข่าวจาก @ ไทยโพส
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 200 อัตรา

กรมกิจการผู้สูงอายุ รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นหนักงานราชการ 15 อัตรา

กรมศิลปากร รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 32 อัตรา

กรมศิลปากร รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 29 อัตรา

กองทัพบก รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงาน จำนวน 2,350 อัตรา

สำนักงานศาลปกครอง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 25 อัตรา

กรมศุลกากร เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 21 อัตรา

สำนักงานศาลยุติธรรม รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ หลายอัตรา

สมัครงาน การบินไทย 2568 เปิดรับสมัครพนักงาน หลายตำแหน่ง

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 1,180 อัตรา ประจำเดือน พฤศจิกายน 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 200 อัตรา

กรมกิจการผู้สูงอายุ รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นหนักงานราชการ 15 อัตรา

กรมศิลปากร รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 32 อัตรา

กรมศิลปากร รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 29 อัตรา

กองทัพบก รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงาน จำนวน 2,350 อัตรา

สำนักงานศาลปกครอง เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 25 อัตรา

กรมศุลกากร เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 21 อัตรา

สำนักงานศาลยุติธรรม รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ หลายอัตรา

สมัครงาน การบินไทย 2568 เปิดรับสมัครพนักงาน หลายตำแหน่ง

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 1,180 อัตรา ประจำเดือน พฤศจิกายน 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

