6 ข้อ อาหารเสริมสร้างพลังสมอง

การดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันต้องแข่งขันกันสูงทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน งานที่ทำก็มีมากและยังต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับที่ทำงานในแต่ละวัน ถ้าเป็นผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลก็พอจะไหวไม่เหนื่อยมากกับการเดินทางหลายต่อและต้องแออัดอยู่กับรถโดยสารสาธารณะ แต่ถ้าเป็นบุคคลที่ต้องฝ่ารถติดด้วยรถเมล์ มอเตอร์ไซค์ ในวันหนึ่งหนึ่งต้องได้รับสารพิษสะสมจากควันจากท่อไอเสียของรถยนต์ เมื่อรวมกับภาวะความเครียดจากงานแล้วทำให้ร่างกายอ่อนล้าโดยเฉพาะสมองของคนเราที่ต้องใช้พลังงานไปกับความคิด การทานอาหารที่ดีได้สัดส่วนจึงส่งผลโดยตรงกับสมองของคนเรา มีอาหารหลากหลายประเภทที่ควรได้รับและไม่ควรได้รับที่ควรรู้ไว้เพื่อจะได้ดูแลให้สมองคนเรามีประสิทธิภาพมากที่สุด


1.อาหารที่ไม่ส่งผลดีต่อการทำงานของสมอง
การใช้ชีวิตประจำวัน หลายครั้งที่คนเรากำลังทำให้สมองถดถอยโดยไม่รู้ตัว เช่น การรับประทานอาหารไขมันสูง การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้มีผลให้การทำงานของสมองด้อยลง ความคิดไม่ฉับไว รวมถึงการทานยาบางอย่างที่มีผลต่อการกดประสาท โดยเฉพาะการกินอาหารมื้อเช้าจะสำคัญที่สุด ไม่ควรทานอาหารย่อยยาก ไขมันสูงในช่วงเช้า ควรเป็นซีเรียล นมอุ่น ๆ ข้าวกล้องต้มและส้มที่ไม่ค่อยหวานมากที่ให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรตทั้งเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนผสมกัน


2.การดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตตามปกติของร่างกาย คนเรามีน้ำอยู่ภายในร่างกายประมาณ 60% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับน้ำและผืนดินบนโลก แสดงว่าธรรมชาติมีกฎของการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่สอดคล้องกับระบบของธรรมชาติ หากคนเราได้รับน้ำน้อยมากเกินไปก็ทำให้ร่างกายทั้งระบบขาดสมดุลได้ โดยเฉพาะสมองของคนเรา โดยมากคนเรามักจะทำงานกันจนลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ มีการวิจัยว่ากว่าที่คนเราจะรู้สึกกระหายน้ำก็หมายถึงร่างกายขาดสมดุลน้ำไปก่อนหน้านี้แล้ว ทางแก้ก็คือการเตือนตนเองอยู่เสมอให้รับประทานน้ำให้เพียงพอ โดยตั้งขวดน้ำไว้ในที่ที่มองเห็นได้บนโต๊ะทำงานและฝึกตัวเองให้มีนิสัยดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ลองสังเกตว่าน้ำมีผลกับสมองจริงหรือไม่ เช่น วันใดถ้ามีอาหารเหนื่อยล้า ความคิดไม่โลดแล่นก็ให้ดูว่าวันนั้นดื่มน้ำน้อยเกินไปหรือไม่


3.ปลาที่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3
ถ้าเมนูของคุณไม่ค่อยมีปลาเหล่านี้แล้วล่ะก็การทำงานของสมองอาจจะลดลง ควรกินปลาให้เพียงพอต่อความต้องการและมีสัดส่วนที่ไม่น้อยไปกว่าไก่ หมูหรือเนื้อ ปลาเป็นอาหารที่ย่อยง่ายให้โปรตีนสูง ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล และปลาแซลมอน ที่มีเนื้อมันจะให้กรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง คุณสามารถนำปลามาเป็นอาหารได้หลากหลายวิธี เช่น เป็นสเต๊กปลา เป็นไส้แซนด์วิช ทานร่วมกับผัก มะเขือเทศต่าง ๆ และน้ำมันมะกอกให้รสชาติที่ดีถูกปาก เมนูอาหารที่ทำจากปลาทะเลน้ำลึกเหล่านี้แม้จะมีราคาแพงกว่าปลาธรรมดาทั่วไปแต่ก็ให้ผลคุ้มค่า หากหาซื้อได้ยากก็อาจจะต้องพิจารณาเป็นอาหารเสริมหรือ Supplemental ทดแทน


4.ข้าวกล้องและธัญพืชไม่ขัดสี
สมองคนเราต้องการพลังงานจากกลูโคส ซึ่งร่างกายคนเราสามารถเปลี่ยนได้จากแป้งที่ทานเข้าไปซึ่งมีทั้งคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น น้ำตาลในอาหารสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทันที ในขณะที่คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากข้าวกล้องและธัญพืชไม่ขัดสี เส้นพาสต้าโฮลวีต ขนมปังโฮลวีต จะทำให้ร่ายกายค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมเป็นพลังงานกลูโคสให้สมองได้ต่อเนื่องในระยะเวลาที่ยาวกว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว การรับประทานข้าวกล้องยังมีวิตามินบี ที่ช่วยในการสื่อสัญญาณระบบประสาทภายในสมองและป้องกันโรคเหน็บชา 



5.ทานผักผลไม้
วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ จากผักและผลไม้ ล้วนมีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายโดยรวมมีระบบการทำงานที่ดีโดยเฉพาะต่อสมองของคนเรา ดังนั้นไม่ควรละเลยผักและผลไม้ระหว่างมื้ออาหาร สามารถนำผักมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผักในสลัด หรือ การนึ่ง ต้ม และผัด ส่วนผลไม้นั้นให้พลังงานจากน้ำตาลในผลไม้ และมีวิตามินที่สำคัญ เช่น ส้ม มีวิตามินซีที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและชะลอการเสื่อมของเซลล์จากอนุมูลอิสระได้

6.เมล็ดพืชแห้งชนิดต่าง ๆ 
เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดอัลมอนด์ วอลนัต ถั่วชนิดต่าง ๆ สามารถให้สารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อการทำงานของสมองได้ โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดและหัวใจมีประสิทธิภาพ ถ้าการส่งผ่านเลือดไปยังสมองดี สมองก็จะทำงานได้ดีเช่นกัน

การเสริมสร้างพลังให้กับสมองสามารถทำได้หลายวิธีทั้งการออกกำลังกาย การนอนพักผ่อนให้เพียงพอรวมถึงการพักผ่อนหย่อนใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังงานที่คนเราเติมเข้าร่างกายที่เป็นรากฐานของกระบวนการทั้งหมด การส่งเสริมการพัฒนาสมองด้วยอาหารแม้จะทำได้ในวัยผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่ดีกว่านั้นคือต้องส่งเสริมลูกหลานให้มีนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีและมีคุณค่าต่อสมองด้วย ด้วยการลดอาหารไขมันสูง อาหารหวานและเค็มที่ทำลายสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ถ้าคุณอยากกระฉับกระเฉงมากขึ้น คิดการงานต่าง ๆ ได้อย่างปลอดโปร่งขอให้ปรับที่อาหารที่คุณกินเป็นอันดับแรก เพราะว่ากินอย่างไรก็จะเป็นแบบนั้น

บทความโดย @ Jobthaidd.com ( บทความนี้มีประโยชน์ แชร์ให้เพื่อนๆ นะคะ )