วอนชาวเน็ตเลิกแชร์ !! หนุ่มกะละมังแลกมือถือ ยันไม่เกี่ยวป่วนใต้ แจงขายต่อร้าน-สกัดทอง

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
วอนชาวเน็ตเลิกแชร์ !! หนุ่มกะละมังแลกมือถือ ยันไม่เกี่ยวป่วนใต้ แจงขายต่อร้าน-สกัดทอง
พ่อค้ารับซื้อโทรศัพท์เก่าตามหมู่บ้าน เดือดร้อนหนัก หลังคนแชร์ว่อนโซเชียลฯ อ้างเป็นกลุ่มป่วนใต้ ทั้งที่รับซื้อไปเพื่อขายต่อสกัดเอาทองคำ เผยกระทบทำมาหากินขาดรายได้หนัก โร่พึ่งศูนย์ดำรงธรรมมหาสารคามช่วยเหลือ
วันนี้ (3 ต.ค. 59) ที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มผู้ประกอบการรับซื้อโทรศัพท์เก่ากว่า 100 คน เดินทางด้วยรถกระบะกว่า 50 คัน ท้ายบรรทุกถัง กะละมังเต็มคันรถ รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม เรื่องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบและชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องกรณีมีกระแสข่าวในโซเซียลมีเดียว่ามีรถกระบะบรรทุกกะละมัง ถัง มาขอแลกโทรศัพท์เก่าที่ไม่ใช้แล้วจะส่งไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้นำไปประกอบระเบิด ทำให้เดือดร้อยอย่างหนักไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม โดยได้ยื่นหนังสือต่อนางจันทร์เพ็ญ ศักดิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม

นางวัณณกาญจน์ แพงมา ชาวบ้านหมู่ 11 บ้านหนองซอน ต.หนองซอน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือ กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวจากโซเชียลมีเดียเรื่องชาวบ้านนำรถเร่เอาของใช้ประเภทพลาสติก ถัง กะละมัง อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำยาล้างจาน ไปแลกโทรศัพท์เก่า โทรศัพท์ แท็บเล็ต ตามหมู่บ้าน ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย นำไปประกอบระเบิดป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งข่าวที่ออกมาเป็นเท็จ ไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ พวกตนที่มีอาชีพค้าของเก่าในตำบลเชียงยืน ต.หนองซอน ต.ดอนเงิน และ ต.โพนทอง อำเภอเชียงยืน รวมถึง ต.เขื่อน อ.โกสุมพิสัย และ ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กว่า 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถนำสินค้าพลาสติกต่างๆ ไปแลกเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ แท็บแล็ตได้เช่นเคย อีกทั้งเมื่อพบด่านตรวจเจ้าหน้าที่กลับถูกเรียกตรวจและตรวจสอบรถอย่างละเอียด บางรายเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำประวัติ ทำให้เสียเวลา
อีกทั้งเมื่อเข้าไปแลกเปลี่ยนในหมู่บ้าน กลับถูกชาวบ้านหรือผู้นำหมู่บ้านไล่ออกมาจากหมู่บ้าน เดือดร้อนมากเพราะไม่มีรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม จึงมาร้องเรียนขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยพวกตนตระเวนออกรับแลกโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตเก่า พัง ไม่ใช้แล้ว โดยจะนำถัง กะละมัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตลอดจนผังซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มไปแลกมา จากนั้นจะนำมารวบรวมไปขายต่อให้ร้านทองในตัวอำเภอเชียงยืน ในราคาเครื่องละ 20-40 บาท เพื่อนำไปสกัดทอง แต่ละวันจะแลกถังกะละมังกับโทรศัพท์เก่าได้วันละประมาณ 300 เครื่อง เฉลี่ยมีรายได้วันละ 1,000 บาท แต่พอมีกระแสข่าวในโซเชียลฯ ถูกมองว่าพวกตนเป็นผู้ก่อการร้าย เหมือนเป็นพวกค้ายาเสพติดที่ต้องถูกตำรวจ ทหารตามจับ ชาวบ้านเมื่อทราบว่ามาแลกโทรศัพท์เก่าก็ถูกไล่ออกมาจากหมู่บ้าน
ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลพบว่าโทรศัพท์แต่ละเครื่องจะมี IC และมีทองคำ 99.99% เคลือบอยู่ โดยจะรวบรวมโทรศัพท์ไปขายร้านทองในตัวอำเภอเพื่อสกัดเอาทองคำ โดยโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าจะมีทองคำมากกว่า ส่วนรุ่นใหม่มีน้อย เท่าที่ทราบคือโทรศัพท์ 500 เครื่องจะได้ทองคำ 1 บาท ขณะนี้พวกตนกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อจะเข้าแจ้งความกรณีมีการแชร์ข้อมูลบนโซเชียลฯ ทำให้พวกตนเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งการแชร์ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจส่งกระทบกับบุคคลอื่นอย่างมหาศาล หากไม่เจออกับตัวเองก็คงไม่รู้ว่าเดือดร้อนเพียงใด
ด้านนางจันทร์เพ็ญ ศักดิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว โดยจะได้ให้ทางอำเภอเชียงยืนตรวจสอบกับทางร้านทองที่รับซื้อโทรศัพท์ว่าจะนำโทรศัพท์ไปทำอะไร หากนำสกัดทองจะใช้วิธีไหน เพื่อความกระจ่าง โดยขอเวลาตรวจสอบ 15 วัน จากนั้นจะแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม การแชร์ข้อมูลบนโลกออนไลน์นั้นอยากให้ประชาชนอ่านให้มากฟังให้มาก หรือตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ เพื่อไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
ขอบคุณเนื้อหาจาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 ตุลาคม 2559
พ่อค้ารับซื้อโทรศัพท์เก่าตามหมู่บ้าน เดือดร้อนหนัก หลังคนแชร์ว่อนโซเชียลฯ อ้างเป็นกลุ่มป่วนใต้ ทั้งที่รับซื้อไปเพื่อขายต่อสกัดเอาทองคำ เผยกระทบทำมาหากินขาดรายได้หนัก โร่พึ่งศูนย์ดำรงธรรมมหาสารคามช่วยเหลือ
วันนี้ (3 ต.ค. 59) ที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มผู้ประกอบการรับซื้อโทรศัพท์เก่ากว่า 100 คน เดินทางด้วยรถกระบะกว่า 50 คัน ท้ายบรรทุกถัง กะละมังเต็มคันรถ รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม เรื่องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบและชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องกรณีมีกระแสข่าวในโซเซียลมีเดียว่ามีรถกระบะบรรทุกกะละมัง ถัง มาขอแลกโทรศัพท์เก่าที่ไม่ใช้แล้วจะส่งไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้นำไปประกอบระเบิด ทำให้เดือดร้อยอย่างหนักไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม โดยได้ยื่นหนังสือต่อนางจันทร์เพ็ญ ศักดิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม

นางวัณณกาญจน์ แพงมา ชาวบ้านหมู่ 11 บ้านหนองซอน ต.หนองซอน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือ กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวจากโซเชียลมีเดียเรื่องชาวบ้านนำรถเร่เอาของใช้ประเภทพลาสติก ถัง กะละมัง อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำยาล้างจาน ไปแลกโทรศัพท์เก่า โทรศัพท์ แท็บเล็ต ตามหมู่บ้าน ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย นำไปประกอบระเบิดป่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งข่าวที่ออกมาเป็นเท็จ ไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ พวกตนที่มีอาชีพค้าของเก่าในตำบลเชียงยืน ต.หนองซอน ต.ดอนเงิน และ ต.โพนทอง อำเภอเชียงยืน รวมถึง ต.เขื่อน อ.โกสุมพิสัย และ ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กว่า 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถนำสินค้าพลาสติกต่างๆ ไปแลกเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ แท็บแล็ตได้เช่นเคย อีกทั้งเมื่อพบด่านตรวจเจ้าหน้าที่กลับถูกเรียกตรวจและตรวจสอบรถอย่างละเอียด บางรายเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำประวัติ ทำให้เสียเวลา
อีกทั้งเมื่อเข้าไปแลกเปลี่ยนในหมู่บ้าน กลับถูกชาวบ้านหรือผู้นำหมู่บ้านไล่ออกมาจากหมู่บ้าน เดือดร้อนมากเพราะไม่มีรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม จึงมาร้องเรียนขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยพวกตนตระเวนออกรับแลกโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตเก่า พัง ไม่ใช้แล้ว โดยจะนำถัง กะละมัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตลอดจนผังซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มไปแลกมา จากนั้นจะนำมารวบรวมไปขายต่อให้ร้านทองในตัวอำเภอเชียงยืน ในราคาเครื่องละ 20-40 บาท เพื่อนำไปสกัดทอง แต่ละวันจะแลกถังกะละมังกับโทรศัพท์เก่าได้วันละประมาณ 300 เครื่อง เฉลี่ยมีรายได้วันละ 1,000 บาท แต่พอมีกระแสข่าวในโซเชียลฯ ถูกมองว่าพวกตนเป็นผู้ก่อการร้าย เหมือนเป็นพวกค้ายาเสพติดที่ต้องถูกตำรวจ ทหารตามจับ ชาวบ้านเมื่อทราบว่ามาแลกโทรศัพท์เก่าก็ถูกไล่ออกมาจากหมู่บ้าน

ด้านนางจันทร์เพ็ญ ศักดิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว โดยจะได้ให้ทางอำเภอเชียงยืนตรวจสอบกับทางร้านทองที่รับซื้อโทรศัพท์ว่าจะนำโทรศัพท์ไปทำอะไร หากนำสกัดทองจะใช้วิธีไหน เพื่อความกระจ่าง โดยขอเวลาตรวจสอบ 15 วัน จากนั้นจะแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม การแชร์ข้อมูลบนโลกออนไลน์นั้นอยากให้ประชาชนอ่านให้มากฟังให้มาก หรือตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ เพื่อไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
ขอบคุณเนื้อหาจาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 ตุลาคม 2559
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
ธ.ก.ส. เปิดรรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงาน 1,380 อัตรา ประจำปี 2568

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 17 อัตรา

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเข้าราชการ 35 อัตรา

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 116 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง

ธ.ก.ส. เปิดรรับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อเป็นพนักงาน 1,380 อัตรา ประจำปี 2568

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 17 อัตรา

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเข้าราชการ 35 อัตรา

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 116 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง
