เล็งชง ! สาธารณสุข แก้ปัญหายาบ้า ทำเม็ดละ 50 สต. ตัดวงจรการค้า
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
วันนี้ (18 ส.ค. 59) สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (ทีไอเจ) ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อนำเสนอนโยบายยาเสพติดที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกุล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เข้าร่วม
โดย พล.อ.ไพบูลย์ เผยที่ผ่านมาเราเดินผิดทางมาตลอด เพราะหากถูกทางทำไมผู้ต้องขังกว่า 70% ยังอยู่ในเรือนจำ มีคนตายไปเป็นพันคนแต่ทำไมปัญหาไม่จบ ทำไมชาวบ้านยังพูดว่ามียาเสพติดในชุมชน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดว่าต้องมีจุดผิดพลาด ขณะนี้สังคมโลกบอกว่าต้องยุติการทำสงครามและใช้ระบบสุขภาพแทน แต่การจะทำได้ต้องเตรียมความพร้อม และการแก้ต้องทำพร้อมกันทุกด้านไม่ได้ทำเฉพาะการปราบปราม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาไทยไม่เคยมุ่งไปที่แหล่งผลิตแต่ปราบเฉพาะในประเทศ
ตนเชื่อว่ายาบ้าเป็นสินค้าเศรษฐกิจไม่มีทางที่จะทำให้หมดไปได้ ดังนั้น ขอถามไปที่ กระทรวงสาธารณสุข ว่าจะทำอย่างไรให้ยาบ้าเหลือเม็ดละ 50 สตางค์ ขอให้บอกตนพร้อมทำให้ทันที
ทั้งนี้ ยังเป็นเรื่องน่าหดหู่ที่การแก้ปัญหายาเสพติดที่ผ่านมาไม่เป็นระบบโดยเฉพาะระบบการป้องกันที่ควรให้ชุมชนเป็นตัวนำ เพราะยาเสพติดถือเป็นปัญหาสังคม ชุมชนก็คือสังคม จะทำอย่างไรที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 81,905 ชุมชน ซึ่งควรมีบทบาทเป็นหลักในระบบคัดกรอง เพราะคงไม่มีหน่วยใดที่จะรู้ข้อมูลพื้นที่และบุคคลได้มากเท่าท้องถิ่น
เช่นเดียวกับระบบป้องกันที่พื้นที่ควรมีบทบาทมากที่สุด โดยเดือนหน้าจะมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตนบอกนายกรัฐมนตรีไว้แล้วว่าหากพื้นที่ใดทำไม่ได้ก็ขอให้ใช้มาตรา 44 โยกย้ายได้เลย
สำหรับการเปลี่ยนบัญชียาบ้าจากวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 ไปเป็นประเภทที่ 2 นั้น ขอทำความเข้าใจว่ายาบ้าไม่ว่าอยู่ในบัญชี 1 หรือบัญชี 2 ก็ยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ที่รัฐบาลยังเดินหน้าปราบปราม และกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน บัญชีรายชื่อนักค้ารายสำคัญมีเพิ่มมากขึ้น แบ่งเป็น 5 กลุ่ม 60 เครือข่าย พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำจะเป็นโมเดลแก้ปัญหายาเสพติดระดับโลก ส่วนผู้เสพควรได้รับการบำบัดรักษา
ด้าน นพ.ปิยะสกล ยอมรับยาเสพติดไม่มีแนวโน้มจะลดลง จึงจำเป็นต้องปรับวิธีโดยเฉพาะเรื่องการให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องรับการรักษา ซึ่งการดูแลผู้ติดยาเสพติดควรขยายในวงกว้างทุกระดับ ไม่จำกัดเฉพาะโรงพยาบาลแต่ต้องรวมถึงโรงพยาบาลสุขภาพตำบลด้วย พร้อมกันนี้ยังต้องปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกันสำหรับการปรับแก้สถานะยาบ้า จากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 1 เป็นประเภท 2 ถูกกำหนดไว้ในร่างพ.ร.บ.ยาเสพติด ฉบับที่อยู่ระหว่างยกร่าง คาดว่าอีกไม่นานจะมีผลบังคับใช้
เนื้อข่าวจาก @ http://www.dailynews.co.th
โดย พล.อ.ไพบูลย์ เผยที่ผ่านมาเราเดินผิดทางมาตลอด เพราะหากถูกทางทำไมผู้ต้องขังกว่า 70% ยังอยู่ในเรือนจำ มีคนตายไปเป็นพันคนแต่ทำไมปัญหาไม่จบ ทำไมชาวบ้านยังพูดว่ามียาเสพติดในชุมชน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดว่าต้องมีจุดผิดพลาด ขณะนี้สังคมโลกบอกว่าต้องยุติการทำสงครามและใช้ระบบสุขภาพแทน แต่การจะทำได้ต้องเตรียมความพร้อม และการแก้ต้องทำพร้อมกันทุกด้านไม่ได้ทำเฉพาะการปราบปราม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ให้ข้อมูลว่าที่ผ่านมาไทยไม่เคยมุ่งไปที่แหล่งผลิตแต่ปราบเฉพาะในประเทศ
ตนเชื่อว่ายาบ้าเป็นสินค้าเศรษฐกิจไม่มีทางที่จะทำให้หมดไปได้ ดังนั้น ขอถามไปที่ กระทรวงสาธารณสุข ว่าจะทำอย่างไรให้ยาบ้าเหลือเม็ดละ 50 สตางค์ ขอให้บอกตนพร้อมทำให้ทันที
ทั้งนี้ ยังเป็นเรื่องน่าหดหู่ที่การแก้ปัญหายาเสพติดที่ผ่านมาไม่เป็นระบบโดยเฉพาะระบบการป้องกันที่ควรให้ชุมชนเป็นตัวนำ เพราะยาเสพติดถือเป็นปัญหาสังคม ชุมชนก็คือสังคม จะทำอย่างไรที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 81,905 ชุมชน ซึ่งควรมีบทบาทเป็นหลักในระบบคัดกรอง เพราะคงไม่มีหน่วยใดที่จะรู้ข้อมูลพื้นที่และบุคคลได้มากเท่าท้องถิ่น
เช่นเดียวกับระบบป้องกันที่พื้นที่ควรมีบทบาทมากที่สุด โดยเดือนหน้าจะมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตนบอกนายกรัฐมนตรีไว้แล้วว่าหากพื้นที่ใดทำไม่ได้ก็ขอให้ใช้มาตรา 44 โยกย้ายได้เลย
สำหรับการเปลี่ยนบัญชียาบ้าจากวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 ไปเป็นประเภทที่ 2 นั้น ขอทำความเข้าใจว่ายาบ้าไม่ว่าอยู่ในบัญชี 1 หรือบัญชี 2 ก็ยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ที่รัฐบาลยังเดินหน้าปราบปราม และกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน บัญชีรายชื่อนักค้ารายสำคัญมีเพิ่มมากขึ้น แบ่งเป็น 5 กลุ่ม 60 เครือข่าย พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำจะเป็นโมเดลแก้ปัญหายาเสพติดระดับโลก ส่วนผู้เสพควรได้รับการบำบัดรักษา
ด้าน นพ.ปิยะสกล ยอมรับยาเสพติดไม่มีแนวโน้มจะลดลง จึงจำเป็นต้องปรับวิธีโดยเฉพาะเรื่องการให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องรับการรักษา ซึ่งการดูแลผู้ติดยาเสพติดควรขยายในวงกว้างทุกระดับ ไม่จำกัดเฉพาะโรงพยาบาลแต่ต้องรวมถึงโรงพยาบาลสุขภาพตำบลด้วย พร้อมกันนี้ยังต้องปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกันสำหรับการปรับแก้สถานะยาบ้า จากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 1 เป็นประเภท 2 ถูกกำหนดไว้ในร่างพ.ร.บ.ยาเสพติด ฉบับที่อยู่ระหว่างยกร่าง คาดว่าอีกไม่นานจะมีผลบังคับใช้
เนื้อข่าวจาก @ http://www.dailynews.co.th
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมปศุสัตว์ เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 91 อัตรา
กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 58 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมปศุสัตว์ เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 91 อัตรา
กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 58 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!