กยศ.จ่อฟ้องลูกหนี้แสนราย ขีดเส้นให้มาเจรจาภายในก.ค.นี้

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
กยศ.จ่อฟ้องลูกหนี้แสนราย ขีดเส้นให้มาเจรจาภายในก.ค.นี้
กยศ.เตรียมยื่นฟ้องลูกหนี้เบี้ยวหนี้ 1 แสนราย เตือนเร่งมาเจรจาก่อนเดือน ก.ค.นี้ พร้อมจ้างทนายตามหนี้
น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ จะครบกำหนดที่ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้คืน กยศ. โดยปีนี้ยังมีลูกหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่ง กยศ.อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีประมาณ 1 แสนราย โดยเฉลี่ยจะมีหนี้รายละประมาณ 1-2 แสนบาท
ปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ครบกำหนดการชำระหนี้ประมาณ 3 ล้านราย แต่มีลูกหนี้ที่ติดค้างการชำระหนี้ประมาณ 1.9 ล้านราย คิดเป็นกว่า 50% ของจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด และมีลูกหนี้ที่ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้วประมาณ 2 แสนราย และลูกหนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีประจำปี 2559 อีกจำนวน 1 แสนราย และที่ผ่านมาก็ได้มีการยึดทรัพย์ไปแล้วประมาณ 800 ราย และอยู่ระหว่างการบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์อีกประมาณ 4,000 ราย
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กยศ.ได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อที่จะจูงใจให้ผู้กู้ กยศ. มีจิตสำนึกในการมาชำระหนี้ โดยล่าสุดได้ออกมาตรการจูงใจให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้
ปิดบัญชี โดยจะลดเบี้ยปรับ 100% ให้กับผู้กู้ยืมที่มีหนี้ค้างชำระและมาชำระหนี้ปิดบัญชีทั้งจำนวน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2559 รวมทั้งได้ขยายช่องทางการชำระหนี้ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องมีใบทวงหนี้จาก กยศ. เพียงมีแต่บาร์โค้ดเท่านั้น
นอกจากนี้ กยศ.ยังได้ตกลงกับกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ซึ่งเป็นความร่วมมือกับองค์กรนายจ้างที่ทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุนเพื่อสร้างความรับผิดชอบให้พนักงานที่เป็นผู้กู้ยืม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีที่ให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลและหักเงินเดือนส่งคืนกองทุน
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้กู้ยืมที่ไม่ได้สังกัดองค์กรนายจ้างหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีความประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชี จึงเสนอมาตรการดังกล่าวให้คณะกรรมการ กยศ.พิจารณา เพื่อจูงใจผู้กู้ยืมกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ทุกคนได้รับสิทธิ แม้จะไม่ได้สังกัดองค์กรนายจ้าง โดยจะมีส่วนลดเบี้ยปรับเฉพาะผู้ที่มีความประสงค์จะปิดบัญชีเท่านั้น มาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้กู้ยืมที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในเดือน ก.ค.นี้อีกด้วย
ทั้งนี้ กยศ.ได้ออกประกาศว่าจ้างสำนักงานทนายความเพื่อดำเนินคดีความฟ้องร้องนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว และไม่นำชำระคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยกำหนดให้จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่งทั่วราชอาณาจักร โดยผู้รับจ้างจะต้องฟ้องคดีทุกคดีที่ได้รับมอบให้เสร็จภายในวันที่ 5 ก.ค. 2559 ซึ่งหากดำเนินการไม่ทันจะต้องถูกปรับคดีละ 1,000 บาท กองทุนจะมีค่าใช้จ่ายการดำเนินคดีทั้งหมดประมาณ 5,500-6,000 บาท/คดี หรือรวมฟ้องทั้งหมดประมาณ 55-60 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าจ้างดำเนินคดีไม่เกินคดีละ 3,500 บาท ค่าใช้จ่ายเหมาจ่ายค่านำหมาย ค่าคำร้อง ค่าแจ้งแรงงาน ค่าพาหนะ ค่าบริการเจ้าหนี้รวมคดีละไม่เกิน 2,000 บาท ค่าธรรมเนียมศาล ค่าประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมาย ค่าธรรมเนียมในการพิสูจน์ตามจ่ายจริงไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทวงหนี้ของ กยศ.เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมีการจ้างบริษัทเอกชนมาดำเนินการ จากเดิมจ้างธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทวงหนี้
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 6 มิถุนายน 2559 เวลา 7.29 น.
กยศ.เตรียมยื่นฟ้องลูกหนี้เบี้ยวหนี้ 1 แสนราย เตือนเร่งมาเจรจาก่อนเดือน ก.ค.นี้ พร้อมจ้างทนายตามหนี้
น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ จะครบกำหนดที่ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้คืน กยศ. โดยปีนี้ยังมีลูกหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่ง กยศ.อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีประมาณ 1 แสนราย โดยเฉลี่ยจะมีหนี้รายละประมาณ 1-2 แสนบาท
ปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ครบกำหนดการชำระหนี้ประมาณ 3 ล้านราย แต่มีลูกหนี้ที่ติดค้างการชำระหนี้ประมาณ 1.9 ล้านราย คิดเป็นกว่า 50% ของจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด และมีลูกหนี้ที่ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้วประมาณ 2 แสนราย และลูกหนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีประจำปี 2559 อีกจำนวน 1 แสนราย และที่ผ่านมาก็ได้มีการยึดทรัพย์ไปแล้วประมาณ 800 ราย และอยู่ระหว่างการบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์อีกประมาณ 4,000 ราย
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กยศ.ได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อที่จะจูงใจให้ผู้กู้ กยศ. มีจิตสำนึกในการมาชำระหนี้ โดยล่าสุดได้ออกมาตรการจูงใจให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้
ปิดบัญชี โดยจะลดเบี้ยปรับ 100% ให้กับผู้กู้ยืมที่มีหนี้ค้างชำระและมาชำระหนี้ปิดบัญชีทั้งจำนวน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2559 รวมทั้งได้ขยายช่องทางการชำระหนี้ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ สามารถที่จะชำระหนี้ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องมีใบทวงหนี้จาก กยศ. เพียงมีแต่บาร์โค้ดเท่านั้น
นอกจากนี้ กยศ.ยังได้ตกลงกับกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ซึ่งเป็นความร่วมมือกับองค์กรนายจ้างที่ทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุนเพื่อสร้างความรับผิดชอบให้พนักงานที่เป็นผู้กู้ยืม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีที่ให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลและหักเงินเดือนส่งคืนกองทุน
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้กู้ยืมที่ไม่ได้สังกัดองค์กรนายจ้างหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีความประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชี จึงเสนอมาตรการดังกล่าวให้คณะกรรมการ กยศ.พิจารณา เพื่อจูงใจผู้กู้ยืมกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ทุกคนได้รับสิทธิ แม้จะไม่ได้สังกัดองค์กรนายจ้าง โดยจะมีส่วนลดเบี้ยปรับเฉพาะผู้ที่มีความประสงค์จะปิดบัญชีเท่านั้น มาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้กู้ยืมที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในเดือน ก.ค.นี้อีกด้วย
ทั้งนี้ กยศ.ได้ออกประกาศว่าจ้างสำนักงานทนายความเพื่อดำเนินคดีความฟ้องร้องนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนฯ ไปแล้ว และไม่นำชำระคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยกำหนดให้จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่งทั่วราชอาณาจักร โดยผู้รับจ้างจะต้องฟ้องคดีทุกคดีที่ได้รับมอบให้เสร็จภายในวันที่ 5 ก.ค. 2559 ซึ่งหากดำเนินการไม่ทันจะต้องถูกปรับคดีละ 1,000 บาท กองทุนจะมีค่าใช้จ่ายการดำเนินคดีทั้งหมดประมาณ 5,500-6,000 บาท/คดี หรือรวมฟ้องทั้งหมดประมาณ 55-60 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าจ้างดำเนินคดีไม่เกินคดีละ 3,500 บาท ค่าใช้จ่ายเหมาจ่ายค่านำหมาย ค่าคำร้อง ค่าแจ้งแรงงาน ค่าพาหนะ ค่าบริการเจ้าหนี้รวมคดีละไม่เกิน 2,000 บาท ค่าธรรมเนียมศาล ค่าประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมาย ค่าธรรมเนียมในการพิสูจน์ตามจ่ายจริงไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทวงหนี้ของ กยศ.เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมีการจ้างบริษัทเอกชนมาดำเนินการ จากเดิมจ้างธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทวงหนี้
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 6 มิถุนายน 2559 เวลา 7.29 น.
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 350 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

กทม. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 373 อัตรา

กรมที่ดิน รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 29 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

ตำแหน่งว่างว่าง เปิดรับสมัครสอบราชการ วุฒิ ปวช./ปวส./ปริญญาตรี ทุกสาขา

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ 350 อัตรา

กรมทางหลวง เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ 42 อัตรา

กทม. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 373 อัตรา

กรมที่ดิน รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ 29 อัตรา

ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ 9,980 อัตรา ประจำเดือน มีนาคม 2568 เช็กตำแหน่งว่างได้ที่นี่

วิธีตรวจสอบคุณวุฒิตามที่ ก.พ. รับรอง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2568

((เว็บไซต์สมัครสอบท้องถิ่น68))

ตำแหน่งว่างว่าง เปิดรับสมัครสอบราชการ วุฒิ ปวช./ปวส./ปริญญาตรี ทุกสาขา

สํานักงาน ก.พ. รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2568 จำนวน 450,000 ที่นั่ง
