ผู้มารับคำปรึกษาถามว่า จะทำอย่างไร ถึงจะหมดหนี้จะได้มีความสุขกับเขาสักที ตอนนี้อยากฆ่าตัวตายแล้วหมุนเงินไม่ทันหันไปทางไหนก็เจอแต่เจ้าหนี้
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า การหลุดพ้นจากความเป็นหนี้ได้มาง่ายกว่าที่คิด ขอเพียงลดความอยาก ความฟุ้งเฟ้อในชีวิตลง ใช้ความรู้หารายได้ให้มากขึ้น เข้าใจความเป็นจริงของโลกและอยู่กับสิ่งที่มี แบบพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ ถ้าทำได้แค่นี้ ชีวิตดีๆก็มาเคาะประตูรอที่หน้าบ้านแล้ว
เรื่องเงินที่ต้องรู้ ถ้าอยากพ้นหนี้ด้วย รวยด้วย



1.เมื่อเราเป็นหนี้แปลว่ารายจ่ายเราเพิ่มขึ้น ดังนั้นการที่เราทำงานที่เดียวเหมือนเดิมมันก็มีรายรับเท่าเดิมแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น เราจึงต้องควรหางานเสริมอาชีพเสริมหรือทำงานหลายที่แบบที่ร่างกายเราไหวสติปัญญาเรามีพอกับงานเสริมนั้นนั้น ต้องระลึกไว้เสมอว่าไม่มีรายได้ไหนมั่นคง ต่อให้เราได้ทำงานที่บริษัทใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม เพราะบริษัทใหญ่แค่ไหนก็ล้มได้ การมีรายได้หลายทางจะช่วยลดความเสี่ยงของเรา

2.หยุดเพิ่มภาระให้ตัวเองโดยการสร้างหนี้เพิ่มขึ้น พวกหนี้เน่าๆทั้งหลายที่มีแล้วสร้างแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น ผ่อนมือถือ พอมีมือถือก็ต้องมีอุปกรณ์ เสียค่าโทรเพิ่ม มีเสียค่าเน็ตเพิ่ม ผ่อนรถ พอมีรถก็ต้องเติมน้ำมัน มีค่าบำรุงรักษา มีค่าประกันภัยรถ มีค่าภาษีค่าต่อทะเบียน ไม่ใช่ว่าซื้อไม่ได้ แต่ควรซื้อให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนจ่าย และความจำเป็นที่จะใช้จริงๆ เน้นว่าจำเป็นจริงๆไม่ใช่คิดเองว่าจำเป็น

3.ถ้าอยากใช้บัตรเคดิตก็ต้องใช้ให้เป็นรู้จักวิธีใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะโปรโมชันดีๆ ของบัตรเคดิตที่จะทำให้เราได้ของแจกของแถมได้ส่วนลดมีมากมายแต่เราต้องจ่ายครบจ่ายตรงเวลา อย่าใช้วิธีจ่ายแบบน้อยที่สุดหรือ 10% ต่อเดือนอันนั้นจะทำให้เรามีหนี้ท่วมตัว และที่สำคัญไอ้ที่บอกผ่อน 0% 10 เดือนหรือกี่เดือนก็ตามเช็คดูให้ดีดีว่าจริงๆแล้ว 0% จริงๆหรือ + ดอกเบี้ยไปแล้วกันแน่ คิดแบบง่ายง่ายแบบนี้แล้วกันค่ะว่าอย่ารูดบัตรเครดิต ถ้าไม่มีเงินสดในกระเป๋าตังจะจ่ายค่าสินค้านั้นอยู่แล้ว ซื้อเฉพาะของจำเป็นที่มีเงินจ่าย จบป่ะ เข้าใจนะคะ

4.แต่ถ้าหากห้ามใจไม่ได้ไม่สามารถหยุดตัวเองได้ถ้ามีบัตรก็ต้องใช้แต่ไม่มีเงินจะจ่าย ให้ยกเลิกบัตรเครดิตทิ้งทั้งหมด เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะสร้างหนี้เน่าให้ตัวเองสูงมากๆในอนาคต

5.เราต้องคิดเสมอว่า เงินทองหามาได้เท่าไหร่ไม่สำคัญ เพราะถึงจะหามาได้มากมายมหาศาล แต่ถ้าใช้หมดก็ไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจึงสำคัญที่ว่าเหลือเก็บออมเท่าไหร่ มีเงินออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่าไหร่ ไม่ใช่ถึงเหตุฉุกเฉินแล้วค่อยมานั่งออมตอนนั้นมันก็ไม่ทันแล้ว เพราะอย่าลืมว่าเงินออมนี้เรายังสามารถรวบรวมนำมาใช้ตัดหนี้สำหรับคนที่มีหนี้ได้ด้วยนะคะ

6.อย่าลืมจดรายชื่อเจ้าหนี้ไว้ให้ครบถ้วนทุกคนทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ เพราะเงินที่เราเก็บออมไว้หากไม่ได้ใช้อะไรมีจำนวนพอที่จะตัดหนี้รายไหนได้ก่อนเราก็ปิดบัญชีเจ้าหนี้รายนั้นไปเลย จะทำให้เราหมดหนี้ได้เร็วขึ้นและมีกำลังใจในการที่จะออมเงินต่อไปเมื่อหมดหนี้ทุกรายเรายังสามารถนำเงินที่ออมนั้นมาลงทุนได้ด้วย

7.การลงทุนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เงินเพิ่มพูนมากขึ้น มันเป็นวิธีการที่เรียกว่าเงินต่อเงิน แต่ต้องมีความรู้ความเข้าใจจริงๆอย่างชัดเจน เอาแบบง่ายง่ายว่าอย่าไปลงทุนอะไรที่เราไม่ชำนาญไม่ถนัด จงลงทุนในสิ่งที่เรามีความรู้อย่างชำนาญสามารถทำด้วยตัวเองได้ไม่ต้องหวังพึ่งใครหรือยืมจมูกใครมาหายใจ อย่าลงทุนโดยหวังผลตอบแทนที่สูงเกินเหตุ เช่น เล่นการพนันออกเงินกู้หวังดอกเบี้ยสูงสูง เพราะแทนที่จะได้เงินเพิ่มกับมีแต่เสียเงินไปแถมยังทำให้มีหนี้เพิ่มแล้วหมดตัวอาจตายได้

8.แต่ถ้าอยากลงทุนจริงๆก่อนที่จะลงทุนอะไร ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การลงทุนทุกอย่างไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ลงทุนไปอย่างไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่มีความรู้ความชำนาญในด้านนั้นนั้นเลย ดังนั้น จงลงทุนเรียนรู้ ในธุรกิจในอาชีพในงานที่เราอยากจะทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้โดยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนั้นนั้น ไปอบรมในเรื่องนั้นนั้นให้เข้าใจอย่างชัดเจนจะดีที่สุด เพราะการลงทุนในเรื่องของความรู้จะทำให้เรามีความเข้าใจสามารถสร้างรายได้ และลดรายจ่ายให้เราได้อย่างยั่งยืน

9.การลงทุนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยคือการลงทุนกับครอบครัว สร้างความรัก สร้างความเข้าใจ สร้างความสุขในครอบครัวแม้จะมีปัญหาหนักหนามากแค่ไหน ถ้าครอบครัวมีความสุข ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหา ก็จะผ่านพ้น วิกฤตนั้นไปได้ เพราะความสุขจากครอบครัวเรียบง่ายและประหยัด ดังนั้นสร้างครอบครัวให้อบอุ่นเข้าไว้ แค่นี้ก็ไม่จำเป็นเสียเงินเพื่อซื้อความสุขด้านอื่นอีกเลย

10.การวางแผนชีวิตเป็นหน้าที่ของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนใช้เงิน จ่ายเงิน หาเงิน ออมเงิน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราต้องพึ่งพาตัวเราเอง ต้องมีวินัยในตัวเองเพื่อที่จะทำให้สำเร็จ อย่าหวังพึ่งผู้อื่นอย่ายืมจมูกคนอื่นมาหายใจ เพราะไม่ว่าเราจะหวังพึ่งใครโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน บางทีคนที่เราหวังพึ่งอาจจะตายก่อนเราก็ได้ สุดท้ายเราก็ต้องพึ่งตัวเราเองอยู่ดี

ขอบคุณบทความดีดีจาก
ดร.ลูกโป่ง ตีสิบ
18/05/2559