6 ข้อ สำหรับคนอยากทำธุรกิจส่วนตัวที่ควรรู้
วันนี้หลายคนอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง เพราะไม่อยากไปเป็นลูกจ้างใครอีกแล้ว โดยหันมาทำ เช่น ร้านกาแฟ เสริมสวย ขายอาหาร ทำการเกษตร และอีกหลายๆอย่าง  และแน่นอนว่าการลงมือทำอะไรนั้นย่อมมีคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในเวลาเดียวกัน  หลายคนนั้นคิดว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องยาก  แต่อยากบอกเลยว่าเป็นนายตัวเองนั้นเป็นเรื่องยากที่สุด “ เพราะการทำว่ายาก แต่การคิดนั้นยากกว่า “ อีกทั้งคุณต้องรับรู้ถึง รายได้และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง  วันนี้ผมมี 6 ข้อคิดสำหรับคนอยากทำธุรกิจส่วนตัวมาฝาก  เขียนโดยคุณ “ อมยิ้มไม่หวาน “ สมาชิกเว็บไซต์ pantip.com  โดยเขาได้เล่าไว้ว่า 
ก็ไม่ได้อยากจะแนะนำอะไรมาก เพราะคนสมัยนี้เก่งๆเยอะมาก เก่งกว่าผมเยอะ
มีบางข้อที่จะบอกเล่าแบบพี่ที่เคยผ่านมาแล้ว  ผมทำมาตั้งแต่อายุ25เริ่มจากศูนย์ เงินตั้งต้นแค่2-3หมื่น

1.คุณต้องลืมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์, ลืมวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ, วันหยุดพักร้อนที่ละครึ่งเดือนไปก่อน (ไว้ตั้งตัวได้ค่อยหาวันหยุด) ถามตัวเองก่อน ว่าเราจะทำงานปีละ 360 วันได้หรือไม่ เราจะทนได้ไหม เราเคยหยุดทุกอาทิตย์ มีเวลาว่าง เวลาเที่ยวเยอะแยะ  

2.คุณต้องรู้จักคุณค่าเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ทำบัญชีรายรับรายจ่าย 

3.คุณต้องรู้จักกินรู้จักใช้ ไม่ฟุ่มเฟือย กินใช้เท่าที่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็น ต้องผ่อน ต้องเป็นหนี้อย่าไปสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น ถ้าหนี้เอามาลงทุนก็มีเท่าที่จำเป็น คิดว่าเราเอาอยู่ ผ่อนส่งไหว อย่าเป็นหนี้เกินตัว

4.คุณต้องลืมตำแหน่งหน้าที่ อำนาจ หัวโขนที่เคยมี สมัยทำงานประจำหรือรับราชการ คุณจะทำกิจการคุณต้องตัวเล็กที่สุด คุณต้องยิ้ม ขอบคุณให้แก่คนทุกชนชั้นได้ เพราะเค้าคือเจ้านายคุณ เค้าเอาเงินมาให้คุณ เค้าไม่ได้มาขอคุณกินคุณใช้ คุณต้องตัวเล็กที่สุด ถ้าคุณทำโจทย์แค่ข้อนี้ไม่ได้ คุณเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆยังไม่ได้ อย่าว่าแต่กิจการใหญ่

5.คุณต้องอดทนได้ทุกวัน เก็บเล็กผสมน้อย และต้องจริงใจกับลูกค้า ถ้าจะขายของกิน ของมันต้องอร่อย สะอาด ไม่ดีอย่าทำ ไม่อย่างนั้นกิจการในฝันคุณจบไวแน่นอน

6.อย่าหวังรวยเร็ว คนที่เค้ายืนหยัดอยู่ได้ เขาผ่านการสร้างเนื้อสร้างตัว ส่วนใหญ่ใช้เวลายาวนาน กว่าจะมีวันที่คนอื่นเห็น อย่าโลภ ค่อยๆทำ

เพราะการดำเนินธุรกิจนั้นคุณต้องรู้ทุกด้าน  ทั้งการตลาด การเงิน การธนาคารและการจัดการเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของคุณนั่นเอง

ขอบคุณเนื้อหาจาก @ คุณ “ อมยิ้มไม่หวาน “ สมาชิกเว็บไซต์ pantip.com  
เรียบเรียงโดย @ Jobthaidd.com