ขอเพิ่มเงินค่าครองชีพกยศ.
กลุ่มการศึกษาทางเลือกยื่นหนังสือถึง"ดาว์พงษ์"จี้รัฐดูแลเด็กหลุดระบบ เพิ่มเงินค่าครองชีพ กยศ.พร้อมหนุนออกกฎหมายลูกอุดหนุนเรียนฟรี 15 ปีถาวร-หาความชัดเจนเรื่องการเรียนซ้ำชั้น

วันนี้(18 พ.ค.)นายเพชรมงคล วัสสุวรรณ เลขาธิการสมาพันธ์การศึกษาทางเลือกแห่งประเทศไทย(สกท.) เปิดเผยว่า สมาพันธ์ฯได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา เพื่อดูแลเด็กที่หลุดระบบการศึกษาในประเทศไทย พบว่า มีหลายประเด็นที่เป็นสาเหตุให้เด็กต้องออกจากระบบการศึกษา จึงได้ไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อนำเสนอประเด็นที่ต้องมีการแก้ไข เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ และดูแลเด็กในภาพรวม โดยประเด็นที่สำคัญประเด็นหนึ่งคือ เรื่องกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)ซึ่งเป็นการให้โอกาสเด็กที่ขาดแคลนได้เรียนต่อเนื่อง แต่เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศกำลังประสบปัญหา ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น เงินกู้ กยศ.ในส่วนของค่าครองชีพที่ผู้กู้ได้รับเดือนละ2,200บาท จึงไม่เพียงพอกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงอยากขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเพิ่มเงินส่วนนี้ให้แก่ผู้กู้ด้วย

นายเพชรมงคล กล่าวต่อไปว่า ส่วนการแก้ปัญหาผู้กู้ไม่ใช้หนี้กยศ.นั้น ทางสกท.เห็นด้วยกับการส่งชื่อเข้าเครดิตบูโร และอยากเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างจริงจัง และให้มีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด สำหรับกรณีการกำหนดผลการเรียนของผู้กู้ ที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่1ว่า ต้องได้เกรดเฉลี่ยชั้นม.ปลาย ไม่ต่ำกว่า2.00นั้น ไม่เห็นด้วย เพราะคนที่เพิ่งเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาอาจจะยังอยู่ระหว่างการปรับตัว จึงอยากขอให้โอกาสเด็กปี1ได้กู้ไปก่อน แล้วค่อยมาใช้เกณฑ์ดังกล่าวในชั้นปีที่2มิฉะนั้นอาจเป็นปัญหาให้เด็กหลุดจากระบบและพลาดโอกาสทางการศึกษาได้

“นอกจากนี้ยังขอสนับสนุนแนวคิดการออกกฎหมายลูกอุดหนุนการเรียนฟรี 15ปี อย่างถาวร เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจว่ารัฐจะรับภาระงบประมาณการจัดการศึ กษาให้แก่ลูกหลานจนจบ ม.6รวมถึงขอสนับสนุนเรื่องการเรียนซ้ำชั้น เฉพาะกลุ่มที่ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ในระดับประถมศึกษาเท่านั้น เพราะการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้จะเป็นปัญหากับตัวเด็กเองในอนาคตได้ แต่การซ้ำชั้น ไม่ควรมีในระดับมัธยม เพราะจะทำให้เด็กมีความรู้สึกอับอายและไม่อยากเรียนต่อ รวมถึงขอสนับสนุนทางเครือข่ายยุวทัศน์กรุงเทพ ที่ขอให้มีนักเรียนเป็นตัวแทนในคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน และเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อเด็กและเบาวชนในอนาคตด้วย” นายเพชรมงคล กล่าว.

ขอบคุณเนื่อข่าวจาก @ เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 18 พฤษภาคม 2559