รู้ไหม 30 สิ่งที่คุณควรเลิกทำกับตัวเองเสียที ?
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
ทุกคนมีเหตุผลมากมายที่ต้องทำสิ่งนี้ หรือไม่อยากทำสิ่งนั้น วันนี้ผมมี " 30 สิ่งที่คุณควรเลิกทำกับตัวเองเสียที " เพราะหากคุณเลิกทำกับตัวเองมันจะทำให้คุณมีความสุข และรู้ว่าเวลานั้นมีค่านั่นเอง มาดูทั้ง 30 ข้อกัน
1. หยุดใช้เวลากับคนแย่ๆ
คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เรารู้จักสุภาษิตนี้กันมาแต่ไหนแต่ไร เรารู้ดีว่าคนดีๆ มักจะสอนและทำให้เราได้ใช้ชีวิตดีๆ เป็นพื้นฐาน ฉะนั้นแล้ว คุณควรรีบใช้ชีวิตอยู่กับคนดีๆ แทนที่จะไปอยู่ในสังคมของคนแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่ไปไหน ยิ่งในเรื่องความรัก เขาว่ากันว่าถ้าคนนั้นเขาต้องการคุณจริง เขาจะมีที่ให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องพยายามหรือต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของคุณ ยังมีคนอีกเยอะที่ให้ความสำคัญกับตัวคุณ จำไว้ว่าคนที่อยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเวลาที่แย่และชี้ทางให้คุณได้ดีคือคนที่เป็นเพื่อนแท้ และคือคนที่คุณควรให้ความสำคัญต่างหาก
2. หยุดวิ่งหนีปัญหาของตัวเอง
การเอาแต่หนีปัญหาไม่ใช่ทางแก้ปัญหาแต่อย่างใด หากแต่เป็นแค่การยืดเวลาทรมานกับปัญหาออกไปเท่านั้น การที่คุณจะก้าวหน้าและไปสู่ชีวิตที่ดีได้ ก็คือการที่คุณก้าวข้ามอดีต ต่อสู้และเอาชนะกับปัญหาให้ได้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหาบางอย่าง บางปัญหาต้องใช้เวลา แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปฏิเสธหรือมองข้ามมัน การเผชิญหน้ากับปัญหาอาจจะทำให้เราต้องทุกข์ ต้องเจ็บปวด ต้องร้องไห้ แต่นั่นก็คือบทเรียนของชีวิตที่เราต้องเผชิญหน้าและเติบโตขึ้น และมันคือสิ่งสำคัญของหล่อหลอมชีวิตเราให้อยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้
3. หยุดโกหกตัวเอง
การโกหกตัวเองมีแต่ทำให้คุณไม่อยู่กับความเป็นจริง และเอาจริงๆ แล้วตัวคุณเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าความจริงคืออะไรเพียงแต่ไม่ยอมรับมัน ยิ่งคุณโกหกตัวคุณเองก็มีแต่ทำให้คุณไม่สามารถอยู่กับชีวิตจริงได้ การเผชิญหน้ากับความจริงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก แต่นั่นก็คือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเราก้าวต่อไป
4. หยุดผลัดวันประกันพรุ่ง
ชีวิตคุณมีอะไรหลายๆ อย่างที่คุณควรได้ทำ อย่าเอาเวลาที่คุณมีไปทำอย่างอื่นจนลืมทำอะไรให้ตัวเอง การช่วยคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีแต่จะดีมากถ้าคุณไม่ลืมเป้าหมายของัวเองและเติมเต็มให้กับสิ่งที่อยากทำด้วย
5. หยุดพยายามเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง
หลายๆ ทีเราอยากเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป ตัวตนบางอย่างไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อเป็น และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องเป็น ในทางกลับกัน การที่คุณพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณจะเป็นเพียงการเสียเวลา ฝืนตัวเอง และเสียโอกาสที่จะพัฒนาส่วนเด่นของคุณเองอีกต่างหาก นอกจากนี้แล้ว การพยายามเป็นที่รักของทุกคน พยายามเอาใจทุกคนด้วยการเปลี่ยนตัวเองนั้นเป็นความคิดผิดๆ ที่จะทรมานตัวคุณเองเปล่าๆ เป็นตัวของคุณเองและให้คนอื่นภูมิใจหรือยอมรับในตัวตนที่แท้ของคุณดีกว่า
6. หยุดยึดติดกับอดีต
อดีตมีไว้ให้เรียนรู้ แต่ไม่ใช่ให้จมอยู่กับมัน ชีวิตคุณจะไม่มีวันไปไหนถ้ายังยึดติดกับเรื่องเดิมๆ คิดว่าชีวิตมันต้องเป็นแบบเมื่อวาน ความสำเร็จมันต้องเป็นแบบครั้งก่อน คุณกำลังอยู่กับ “วันนี้” และใช้ชีวิตเพื่อไปสู่ “พรุ่งนี้” ไม่ใช่การกลับไปใช้ชีวิตใน “เมื่อวาน”
7. หยุดกลัวที่จะทำผิด
ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากให้เกิดกัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องราวสำคัญที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ เพราะมันทำให้เขารู้ว่าอะไรดีและไม่ดี การอนุญาตให้ตัวเองได้พบกับความผิดพลาด (บ้าง) คือการเปิดใจให้กล้าลอง ได้ทดสอบหลายๆ อย่าง การลองแล้วผิดพลาดมันก็ยังดีเสียกว่าคุณไม่ได้ลองทำอะไรเลย คุณที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนพบกับความผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น ถ้าคุณอยากจะไปให้ไกลขึ้น คุณก็ต้องกล้าที่จะพบกับความผิดหวังบ้าง แต่ถ้าคุณไม่กล้า คุณก็วนอยู่กับเรื่องเดิมๆ นั่นแหละ
8. หยุดโทษตัวเองกับความผิดก่อนๆ
คนเราผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าความผิดพลาดมันจะเกิดขึ้นตลอดไป ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นในอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน คุณอาจจะเสียใจกับความผิดในอดีตได้ แต่อย่าเอาแต่โทษตัวเองจนไม่ได้ทำอะไรใหม่ จำไว้ว่าความผิดพลาดมันคือการปูโอกาสให้เจอสิ่งที่ใช่ การที่เราเคยคบกับคนที่ไม่ใช่ ก็เพื่อให้วันหนึ่งเราได้เจอคนที่ใช่ ความผิดพลาดในอดีตก็ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ถูกคืออะไร
9. หยุดคิดที่จะเอาแต่ซื้อความสุข
ความสุขไม่ได้มาจากการใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีของอยากได้ที่ราคาแพง แต่นั่นไม่ใช่ทุกอย่างของความสุข อันที่จริงแล้วยังมีความสุขอีกมากมายที่คุณได้มาฟรีๆ อย่างเช่นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
10. หยุดคาดหวังความสุขจากคนอื่น
ประโยคประเภท “ชั้นมีความสุข เมื่อเธอมีความสุข” อาจจะฟังดูสุดโรแมนติค แต่ถ้าตัวคุณเองยังไม่มีความสุขกับตัวเองแล้ว คุณจะไปมีความสุขกับคนอื่นได้ยังไง ฉะนั้นแล้ว ความสุขเริ่มต้นจากตัวคุณเองก่อน ความคิดประเภท “ชั้นจะมีความสุขก็ต่อเมื่อมีเธอ” มันทำให้คุณต้องไปพึ่งหวังกับคนอื่นและต้องทุกข์ถ้าไม่มีอีกฝั่งทั้งที่จริงคุณเองก็สามารถสุขได้ด้วยตัวเองแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้น สร้างตัวเองให้มั่นคงก่อน แล้วคุณแชร์ความสุขนั้นกับผู้อื่นดีกว่าครับ
11. หยุดไม่ทำอะไรสักที
หลายคนเป็นประเภทกลัวจะสร้างปัญหา เลยไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนด้วยเช่นกัน ชีวิตคุณเกิดมาพร้อมกับเวลาและโอกาสมากมาย ใช้เสียให้คุ้ม ดูสถานการณ์รอบตัวคุณแล้วคิดเสียว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะพาชีวิตก้าวไปข้างหน้า แล้วก็เริ่มลงมือทำได้แล้ว
12. หยุดคิดว่าคุณไม่พร้อม
ไม่มีใครพร้อม 100% ตอนที่ได้รับโอกาส เพราะเอาเข้าจริงๆ การนิยามว่า “พร้อม” นั้นมันไม่มีคำนิยามที่เป๊ะๆ หรอก แถมเอาเข้าจริงๆ มันเป็นสิ่งที่คุณคิดไปเองทั้งนั้น โอกาสดีๆ ในชีวิตมันมาพร้อมกับการทำให้คุณก้าวไปสู่สิ่งที่คุณยังไม่เคยได้ทำ สิ่งที่คุณยังไม่มีประสบการณ์ ฉะนั้นมันไม่มีทางที่คุณจะพร้อมอยู่แล้ว มันอยู่แต่ว่าคุณจะยอมทำมันไหมต่างหาก
13. หยุดไปมีความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลผิดๆ
การมีความสัมพันธ์ใดๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดและพิจารณากันดีๆ ชีวิคคู่ในหลายๆ ครั้งไม่ได้นำไปสู่เรื่องดีๆ แถมยังทำให้ชีวิตย่ำแย่เสียอีกต่างหาก ผมมักพูดเสมอบ่อยๆ ว่าถ้ามีคู่แล้วไม่ดี ก็อยู่เป็นโสดเสียดีกว่า อย่าไปคิแบบนิยายว่ารักคือสิ่งสวยงามที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีแต่สีชมพู เราเห็นกันมาเยอะแล้วว่าเวลารักขมมันทำให้ชีวิตแต่ละคนย่ำแย่แค่ไหน ถ้าจะมีความรักอะไรนั้น ให้มีวันที่คุณพร้อมจะมี ไม่ใช่มีเพราะคุณแค่อยากจะหายเหงา
14. หยุดคิดว่าจะเป็นโสดแค่เพราะรักครั้งที่แล้วมันแย่
การมีความรักที่ผิดพลาดมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่มันไม่ใช่ว่ารักครั้งใหม่มันจะต้องแย่เหมือนรักครั้งก่อน คุณที่คุณเจออยู่อาจจะเป็นคนที่ “ใช่” และทำให้ชีวิตของคุณดีก็เป็นไปได้ ฉะนั้นแล้วเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ปิดประตูเพราะเอาแต่คิดว่า “ผู้ชายทุกคนมันเลว” หรือ “ผู้หญิงทุกคนนั้นแย่” (ไอ้ที่แย่น่ะมันแค่คนบางคนที่คุณเจอ หรือบางทีอาจจะเป็นที่ตัวคุณเองต่างหากเล่า)
15. หยุดแข่งกับคนอื่น
การเทียบกับคนอื่นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกอคติกับตัวเองเพราะต้องมานั่งกังวลว่าคนอื่นเขาจะดีกว่าคุณเมื่อไร เขาจะนำคุณเมื่อไร มันกลายเป็นเป้าหมายชีวิตของคุณไปผูกอยู่กับคนอื่นแทนที่คุณจะมานั่งสนใจกับตัวคุณเอง ฉะนั้นแล้ว ตั้งเป้าหมายในการแข่งกับตัวคุณเอง เอาชนะตัวเองในวันก่อนๆ ให้ได้คือสิ่งที่คุณควรจะคิดมากกว่านะครับ
16. หยุดอิจฉาคนอื่น
การอิจฉาเป็นกิเลสที่เผาตัวคุณอย่างไม่มีวันจบ ยิ่งคุณอิจฉาคนอื่นมันก็จะยิ่งทำให้คุณทรมานมากขึ้นเท่านั้น มันทำให้คุณวนเวียนแต่กับการคิดไม่ดีกับคนอื่น คิดแต่จะทำให้คนอื่นแย่กว่าตัวเอง ถ้าคนอื่นดีกว่าคุณ คุณก็โทษตัวเองไปในตัว แล้วมันนำไปสู่อะไรกันล่ะ? หยุดอิจฉาคนอื่นแล้วมาสนใจตัวคุณเองดีกว่า นอกจากไม่ทุกข์แล้ว คุณอาจจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นด้วย
17. หยุดโทษตัวเอง
อย่างที่บอก (อีกแล้ว) ว่าคนเราผิดพลาดกันได้ คุณเองก็ผิดได้ เจ้านายคุณก็ผิดได้ เพื่อนคุณก็ผิดได้ อย่าเอาแต่คิดว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะคุณ สิ่งต่างๆ มันมีปัจจจัยที่มาเกื้อหนุนให้ “เกิดขึ้น” ไม่ใช่แค่เพราะคุณคนเดียว เรียนรู้จากความผิดพลาดและยิ้มให้กับตัวเองแทนที่จะเอาแต่โทษตัวเองไปเรื่อยๆ
18. หยุดอาฆาตแค้น
นอกจากความอิจฉาแล้ว การอาฆาตแค้นเป็นเรื่องที่ชีวิตคุณไม่ควรเอามาถือไว้เลยสักนิด การเกลียดคนอื่นมีแต่จะทำให้ชีวิตคุณแย่และทำร้ายตัวคุณเองมากกว่าที่คนซึ่งคุณเกลียดทำกับคุณเสียอีก การให้อภัยหรือปล่อยมันไปเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้คุณหลุดพ้นจากวังวนที่ทำให้ชีวิตคุณแย่ คุณต้องกล้าที่จะบอกว่า “ฉันจะไม่ให้เธอมาทำลายความสุขของฉันอีก” แล้วก็อย่าไปสนใจมันอีก แค่นั้นแหละครับ
19. หยุดให้คนอื่นมาฉุดให้คนลงไปอยู่กับพวกเขา
หลายๆ ครั้งที่คุณรู้ว่าชีวิตคุณมีดีกว่าที่จะตอบโต้หรือลงไปอยู่ในมาตรฐานเดียวกับคนบางกลุ่ม ฉะนั้นก็อย่าเอาตัวเองลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำลง เหมือนบัว 4 เหล่าที่คุณไม่ควรลงไปยุ่งและทำตัวแบบเดียวกับบัวที่อยู่ต่ำกว่าคุณนั่นแหละครับ
20. หยุดเอาเวลามานั่งอธิบายตัวเองให้คนอื่นฟัง
คนที่เขาเข้าใจและแคร์คุณ (และคนที่คุณควรแคร์) เขาไม่ต้องมานั่งฟังคุณอธิบายว่าคุณเป็นอย่างไร เพราะเขาจะเข้าใจคุณตั้งแต่แรกโดยแทบไม่ต้องพูดอะไรสักนิด ในขณะเดียวกัน คนที่เขาเกลียดคุณหรือเป็นศัตรูคุณเขาก็ไม่มานั่งฟังคุณเช่นกัน (คุณอธิบายไปก็เท่านั้นแหละ)
21. หยุดทำอะไรโดยไม่มีหยุดพัก
จริงอยู่ว่าชีวิตมีเวลาจำกัดที่คุณต้องรีบใช้ให้คุ้ม แต่การคุ้มไม่ใช่แปลว่าคุณไม่ได้พักอะไรเลย การพักบ้างอะไรบ้างมันทำให้คุณได้ถอนหายใจ ได้พิจารณาอะไรหลายๆ อย่างระหว่างพัก ลองหาเวลาที่จะหยุดทำอะไรสักพักแล้วให้เวลากับตัวเองในเรื่องอื่นบ้างก็ไม่เสียหายหรอกครับ
22. หยุดมองข้ามความสวยงามเล็กๆ น้อย
การหาความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้างมันเป็นเรื่องที่ดีและทำให้คุณเห็นคุณค่าของ “เวลา” และ “ชีวิต” มากกว่าที่คุณคิด คุณอาจจะมีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องวิ่งไปข้างหน้าอีกนาน แต่อย่าลืมแวะสนุกกับเรื่องราวริมทางบ้าง มันจะดีมากถ้าคุณสามารถมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับความสุขใหญ่ๆ ที่ปลายทาง
23. หยุดทำให้ทุกอย่างเพอร์เฟค
โลกความจริงมันไม่เหมือนโลกอุดมคติ ไม่มีอะไรที่จะเสร็จสมบูรณ์ไปได้ คนเราย่อมคิดอะไรที่จะแต่งแต้มและเพิ่มให้ดีขึ้นได้อีกเรื่อยๆ การที่เอาแต่บอกว่ามันต้องสมบูรณ์เท่านั้นมันเป็นการตีกรอบให้หลายๆ ทีคุณไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างเพราะคุณเอาแต่คิดว่า “มันไม่ดีพอ” สักกะที
24. หยุดเดินตามเส้นทางที่เน้นปลอดภัยอย่างเดียว
ใครๆ ก็อยากรู้สึกปลอดภัยอยู่ใน Comfort Zone แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนไกล การจะประสบความสำเร็จหรือได้สิง่ที่คุณคู่ควรนั้น ส่วนหนึ่งคือการลองทำสิ่งใหม่ๆ การทำอะไรที่ยากๆ หรือทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ฉะนั้นแล้ว อย่าเอาแต่เลือกเส้นทางแบบ “รักสบาย” ตลอดไป บางครั้งคุณต้องกล้าจะเลือกทางที่จะยากลำบากบ้าง (แล้วมันอาจจะดีเสียกว่าที่คุณเลือกทางสบายๆ เสียอีก)
25. หยุดทำเป็นเหมือนว่าทุกอย่างไม่เป็นไรทั้งที่จริงมันไม่ใช่
การมองโลกในแง่ดีกับการมองโลกโดยไม่อยู่กับความจริงมันเป็นเรื่องที่ฟังดูคล้ายๆ กันแต่ได้ผลคนละเรื่อง คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนที่แข็งแกร่ง ไม่กระเทือน ไม่รู้สึกรู้สาตลอดเวลา บางทีคุณก็ต้องปล่อยให้ตัวเองรู้สึกบ้างอะไรบ้าง เดือดร้อนบ้างตามประสามนุษย์ มันทำให้คุณมีโอกาสได้เป็น “คน” อย่างที่คุณเป็นอยู่แหละครับ
26. หยุดพยายามเป็นทุกอย่างเพื่อทุกๆ คน
ความคิดเรื่องของการเป็น “คนของประชาชน” ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาอย่างคุณควรจะทำ (เว้นแต่คุณจะพยายามเป็นนักการเมืองน่ะนะ) คุณต้องไม่ลืมว่าคนรอบข้างคุณไม่ได้คิดเหมือนกันทุกคน ยิ่งคุณรู้จักคนเยอะ เกี่ยวข้องกับคนเยอะ มันก็ยิ่งมีความต้องการมากมาย ความคาดหวังที่หลากหลาย แล้วมันคงไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องปรับตัวเองเพื่อให้ตอบสนองทุกๆ อย่าง เพราะสุดท้ายก็จะมีแต่ทำให้ตัวตนของคุณบิดเบี้ยวเสียอีกต่างหาก
27. หยุดโทษคนอื่นสำหรับปัญหาของคุณ
การไม่รับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง แต่โยนความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นคือนิสัยของคนที่จะไม่มีวันโตเพราะเขาจะไม่มีวันเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ คนที่จะประสบความสำเร็จคือคนประเภทที่กล้า “รับผิด” และ “รับชอบ” กับตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ “รับชอบ” อย่างเดียว
28. หยุดกังวลเกินไป
การเอาแต่กังวลไปเสียทุกอย่างมีแต่จะทำให้สมองของคุณรวมทั้งความรู้สึกของคุณไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะนำไปสู่ความสุขเลยแถมยังจะฉุดตัวคุณเองในแต่ละวันด้วยซ้ำ เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะกังวลได้ แต่เรื่องบางเรื่องมันยังไม่ถึงเวลา หรือไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะกังวล ถามตัวเองให้ดีเวลาที่คุณจะกังวลกับอะไรว่าคุณควรจะกังวลกับมันไหม
29. หยุดคิดถึงแต่สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้น
แทนที่คุณจะเอาสมาธิไปมัวคิดว่าจะเกิดอะไรที่ไม่พึงประสงค์ คุณควรไปนั่งคิดมากกว่าว่าจะทำอะไรให้เกิดสิ่งที่คุณพึงประสงค์ การคิดในแง่บวก (แบบไม่เกินจริง) คือพื้นฐานที่ทำให้คนคิดก้าวไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นแล้ว เอาพลังและเวลาที่คุณมีไปคิดถึงแต่สิ่งดีๆ ที่คุณอยากทำให้เกิดขึ้นดีกว่าครับ
30. หยุดเฉยชากับโลก
ไม่ว่าโลกมันจะแย่หรือจะดี มันคงจะดีกว่าที่คุณจะรู้สึกดีที่มีชีวิตอยู่และมีวันนี้ (รวมทั้งพรุ่งนี้) มีคนมากมายที่ชีวิตแย่กว่าคุณ (เชื่อเหอะว่ามีจริงๆ) รู้จักยินดีกับสิ่งที่คุณมี พอใจกับความสุขที่คุณได้ในแต่ละวันมันทำให้คุณอยากมีชีวิตต่อไปแทนที่จะมานั่งคิดว่าคุณพลาดอะไรไปบ้าง หรือขาดอะไรไป
และเมื่อใดที่คุณได้เลิกทำทั้ง 30 สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ลองมองกลับดูตัวอย่างว่าชีวิตเรานั้นมีความสุขมากเพิ่มขึ้นหรือไม่ และพยายามทำทุกวันนั้นให้ดีที่สุด เท่านั้นเอง ชีวิตของคุณก็จะมีควมสุขในทุกวันที่อยู่บนโลกใบนี้นั่นเอง
ขอบคุณบทความและเนื้อหาจาก @ nuttaputch.com
1. หยุดใช้เวลากับคนแย่ๆ
คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เรารู้จักสุภาษิตนี้กันมาแต่ไหนแต่ไร เรารู้ดีว่าคนดีๆ มักจะสอนและทำให้เราได้ใช้ชีวิตดีๆ เป็นพื้นฐาน ฉะนั้นแล้ว คุณควรรีบใช้ชีวิตอยู่กับคนดีๆ แทนที่จะไปอยู่ในสังคมของคนแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่ไปไหน ยิ่งในเรื่องความรัก เขาว่ากันว่าถ้าคนนั้นเขาต้องการคุณจริง เขาจะมีที่ให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องพยายามหรือต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของคุณ ยังมีคนอีกเยอะที่ให้ความสำคัญกับตัวคุณ จำไว้ว่าคนที่อยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเวลาที่แย่และชี้ทางให้คุณได้ดีคือคนที่เป็นเพื่อนแท้ และคือคนที่คุณควรให้ความสำคัญต่างหาก
2. หยุดวิ่งหนีปัญหาของตัวเอง
การเอาแต่หนีปัญหาไม่ใช่ทางแก้ปัญหาแต่อย่างใด หากแต่เป็นแค่การยืดเวลาทรมานกับปัญหาออกไปเท่านั้น การที่คุณจะก้าวหน้าและไปสู่ชีวิตที่ดีได้ ก็คือการที่คุณก้าวข้ามอดีต ต่อสู้และเอาชนะกับปัญหาให้ได้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหาบางอย่าง บางปัญหาต้องใช้เวลา แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปฏิเสธหรือมองข้ามมัน การเผชิญหน้ากับปัญหาอาจจะทำให้เราต้องทุกข์ ต้องเจ็บปวด ต้องร้องไห้ แต่นั่นก็คือบทเรียนของชีวิตที่เราต้องเผชิญหน้าและเติบโตขึ้น และมันคือสิ่งสำคัญของหล่อหลอมชีวิตเราให้อยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้
3. หยุดโกหกตัวเอง
การโกหกตัวเองมีแต่ทำให้คุณไม่อยู่กับความเป็นจริง และเอาจริงๆ แล้วตัวคุณเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าความจริงคืออะไรเพียงแต่ไม่ยอมรับมัน ยิ่งคุณโกหกตัวคุณเองก็มีแต่ทำให้คุณไม่สามารถอยู่กับชีวิตจริงได้ การเผชิญหน้ากับความจริงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก แต่นั่นก็คือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเราก้าวต่อไป
4. หยุดผลัดวันประกันพรุ่ง
ชีวิตคุณมีอะไรหลายๆ อย่างที่คุณควรได้ทำ อย่าเอาเวลาที่คุณมีไปทำอย่างอื่นจนลืมทำอะไรให้ตัวเอง การช่วยคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีแต่จะดีมากถ้าคุณไม่ลืมเป้าหมายของัวเองและเติมเต็มให้กับสิ่งที่อยากทำด้วย
5. หยุดพยายามเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง
หลายๆ ทีเราอยากเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป ตัวตนบางอย่างไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อเป็น และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องเป็น ในทางกลับกัน การที่คุณพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณจะเป็นเพียงการเสียเวลา ฝืนตัวเอง และเสียโอกาสที่จะพัฒนาส่วนเด่นของคุณเองอีกต่างหาก นอกจากนี้แล้ว การพยายามเป็นที่รักของทุกคน พยายามเอาใจทุกคนด้วยการเปลี่ยนตัวเองนั้นเป็นความคิดผิดๆ ที่จะทรมานตัวคุณเองเปล่าๆ เป็นตัวของคุณเองและให้คนอื่นภูมิใจหรือยอมรับในตัวตนที่แท้ของคุณดีกว่า
6. หยุดยึดติดกับอดีต
อดีตมีไว้ให้เรียนรู้ แต่ไม่ใช่ให้จมอยู่กับมัน ชีวิตคุณจะไม่มีวันไปไหนถ้ายังยึดติดกับเรื่องเดิมๆ คิดว่าชีวิตมันต้องเป็นแบบเมื่อวาน ความสำเร็จมันต้องเป็นแบบครั้งก่อน คุณกำลังอยู่กับ “วันนี้” และใช้ชีวิตเพื่อไปสู่ “พรุ่งนี้” ไม่ใช่การกลับไปใช้ชีวิตใน “เมื่อวาน”
7. หยุดกลัวที่จะทำผิด
ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากให้เกิดกัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องราวสำคัญที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ เพราะมันทำให้เขารู้ว่าอะไรดีและไม่ดี การอนุญาตให้ตัวเองได้พบกับความผิดพลาด (บ้าง) คือการเปิดใจให้กล้าลอง ได้ทดสอบหลายๆ อย่าง การลองแล้วผิดพลาดมันก็ยังดีเสียกว่าคุณไม่ได้ลองทำอะไรเลย คุณที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนพบกับความผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น ถ้าคุณอยากจะไปให้ไกลขึ้น คุณก็ต้องกล้าที่จะพบกับความผิดหวังบ้าง แต่ถ้าคุณไม่กล้า คุณก็วนอยู่กับเรื่องเดิมๆ นั่นแหละ
8. หยุดโทษตัวเองกับความผิดก่อนๆ
คนเราผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าความผิดพลาดมันจะเกิดขึ้นตลอดไป ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นในอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน คุณอาจจะเสียใจกับความผิดในอดีตได้ แต่อย่าเอาแต่โทษตัวเองจนไม่ได้ทำอะไรใหม่ จำไว้ว่าความผิดพลาดมันคือการปูโอกาสให้เจอสิ่งที่ใช่ การที่เราเคยคบกับคนที่ไม่ใช่ ก็เพื่อให้วันหนึ่งเราได้เจอคนที่ใช่ ความผิดพลาดในอดีตก็ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ถูกคืออะไร
9. หยุดคิดที่จะเอาแต่ซื้อความสุข
ความสุขไม่ได้มาจากการใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีของอยากได้ที่ราคาแพง แต่นั่นไม่ใช่ทุกอย่างของความสุข อันที่จริงแล้วยังมีความสุขอีกมากมายที่คุณได้มาฟรีๆ อย่างเช่นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
10. หยุดคาดหวังความสุขจากคนอื่น
ประโยคประเภท “ชั้นมีความสุข เมื่อเธอมีความสุข” อาจจะฟังดูสุดโรแมนติค แต่ถ้าตัวคุณเองยังไม่มีความสุขกับตัวเองแล้ว คุณจะไปมีความสุขกับคนอื่นได้ยังไง ฉะนั้นแล้ว ความสุขเริ่มต้นจากตัวคุณเองก่อน ความคิดประเภท “ชั้นจะมีความสุขก็ต่อเมื่อมีเธอ” มันทำให้คุณต้องไปพึ่งหวังกับคนอื่นและต้องทุกข์ถ้าไม่มีอีกฝั่งทั้งที่จริงคุณเองก็สามารถสุขได้ด้วยตัวเองแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้น สร้างตัวเองให้มั่นคงก่อน แล้วคุณแชร์ความสุขนั้นกับผู้อื่นดีกว่าครับ
11. หยุดไม่ทำอะไรสักที
หลายคนเป็นประเภทกลัวจะสร้างปัญหา เลยไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนด้วยเช่นกัน ชีวิตคุณเกิดมาพร้อมกับเวลาและโอกาสมากมาย ใช้เสียให้คุ้ม ดูสถานการณ์รอบตัวคุณแล้วคิดเสียว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะพาชีวิตก้าวไปข้างหน้า แล้วก็เริ่มลงมือทำได้แล้ว
12. หยุดคิดว่าคุณไม่พร้อม
ไม่มีใครพร้อม 100% ตอนที่ได้รับโอกาส เพราะเอาเข้าจริงๆ การนิยามว่า “พร้อม” นั้นมันไม่มีคำนิยามที่เป๊ะๆ หรอก แถมเอาเข้าจริงๆ มันเป็นสิ่งที่คุณคิดไปเองทั้งนั้น โอกาสดีๆ ในชีวิตมันมาพร้อมกับการทำให้คุณก้าวไปสู่สิ่งที่คุณยังไม่เคยได้ทำ สิ่งที่คุณยังไม่มีประสบการณ์ ฉะนั้นมันไม่มีทางที่คุณจะพร้อมอยู่แล้ว มันอยู่แต่ว่าคุณจะยอมทำมันไหมต่างหาก
13. หยุดไปมีความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลผิดๆ
การมีความสัมพันธ์ใดๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดและพิจารณากันดีๆ ชีวิคคู่ในหลายๆ ครั้งไม่ได้นำไปสู่เรื่องดีๆ แถมยังทำให้ชีวิตย่ำแย่เสียอีกต่างหาก ผมมักพูดเสมอบ่อยๆ ว่าถ้ามีคู่แล้วไม่ดี ก็อยู่เป็นโสดเสียดีกว่า อย่าไปคิแบบนิยายว่ารักคือสิ่งสวยงามที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีแต่สีชมพู เราเห็นกันมาเยอะแล้วว่าเวลารักขมมันทำให้ชีวิตแต่ละคนย่ำแย่แค่ไหน ถ้าจะมีความรักอะไรนั้น ให้มีวันที่คุณพร้อมจะมี ไม่ใช่มีเพราะคุณแค่อยากจะหายเหงา
14. หยุดคิดว่าจะเป็นโสดแค่เพราะรักครั้งที่แล้วมันแย่
การมีความรักที่ผิดพลาดมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่มันไม่ใช่ว่ารักครั้งใหม่มันจะต้องแย่เหมือนรักครั้งก่อน คุณที่คุณเจออยู่อาจจะเป็นคนที่ “ใช่” และทำให้ชีวิตของคุณดีก็เป็นไปได้ ฉะนั้นแล้วเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ปิดประตูเพราะเอาแต่คิดว่า “ผู้ชายทุกคนมันเลว” หรือ “ผู้หญิงทุกคนนั้นแย่” (ไอ้ที่แย่น่ะมันแค่คนบางคนที่คุณเจอ หรือบางทีอาจจะเป็นที่ตัวคุณเองต่างหากเล่า)
15. หยุดแข่งกับคนอื่น
การเทียบกับคนอื่นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกอคติกับตัวเองเพราะต้องมานั่งกังวลว่าคนอื่นเขาจะดีกว่าคุณเมื่อไร เขาจะนำคุณเมื่อไร มันกลายเป็นเป้าหมายชีวิตของคุณไปผูกอยู่กับคนอื่นแทนที่คุณจะมานั่งสนใจกับตัวคุณเอง ฉะนั้นแล้ว ตั้งเป้าหมายในการแข่งกับตัวคุณเอง เอาชนะตัวเองในวันก่อนๆ ให้ได้คือสิ่งที่คุณควรจะคิดมากกว่านะครับ
16. หยุดอิจฉาคนอื่น
การอิจฉาเป็นกิเลสที่เผาตัวคุณอย่างไม่มีวันจบ ยิ่งคุณอิจฉาคนอื่นมันก็จะยิ่งทำให้คุณทรมานมากขึ้นเท่านั้น มันทำให้คุณวนเวียนแต่กับการคิดไม่ดีกับคนอื่น คิดแต่จะทำให้คนอื่นแย่กว่าตัวเอง ถ้าคนอื่นดีกว่าคุณ คุณก็โทษตัวเองไปในตัว แล้วมันนำไปสู่อะไรกันล่ะ? หยุดอิจฉาคนอื่นแล้วมาสนใจตัวคุณเองดีกว่า นอกจากไม่ทุกข์แล้ว คุณอาจจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นด้วย
17. หยุดโทษตัวเอง
อย่างที่บอก (อีกแล้ว) ว่าคนเราผิดพลาดกันได้ คุณเองก็ผิดได้ เจ้านายคุณก็ผิดได้ เพื่อนคุณก็ผิดได้ อย่าเอาแต่คิดว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะคุณ สิ่งต่างๆ มันมีปัจจจัยที่มาเกื้อหนุนให้ “เกิดขึ้น” ไม่ใช่แค่เพราะคุณคนเดียว เรียนรู้จากความผิดพลาดและยิ้มให้กับตัวเองแทนที่จะเอาแต่โทษตัวเองไปเรื่อยๆ
18. หยุดอาฆาตแค้น
นอกจากความอิจฉาแล้ว การอาฆาตแค้นเป็นเรื่องที่ชีวิตคุณไม่ควรเอามาถือไว้เลยสักนิด การเกลียดคนอื่นมีแต่จะทำให้ชีวิตคุณแย่และทำร้ายตัวคุณเองมากกว่าที่คนซึ่งคุณเกลียดทำกับคุณเสียอีก การให้อภัยหรือปล่อยมันไปเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้คุณหลุดพ้นจากวังวนที่ทำให้ชีวิตคุณแย่ คุณต้องกล้าที่จะบอกว่า “ฉันจะไม่ให้เธอมาทำลายความสุขของฉันอีก” แล้วก็อย่าไปสนใจมันอีก แค่นั้นแหละครับ
19. หยุดให้คนอื่นมาฉุดให้คนลงไปอยู่กับพวกเขา
หลายๆ ครั้งที่คุณรู้ว่าชีวิตคุณมีดีกว่าที่จะตอบโต้หรือลงไปอยู่ในมาตรฐานเดียวกับคนบางกลุ่ม ฉะนั้นก็อย่าเอาตัวเองลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำลง เหมือนบัว 4 เหล่าที่คุณไม่ควรลงไปยุ่งและทำตัวแบบเดียวกับบัวที่อยู่ต่ำกว่าคุณนั่นแหละครับ
20. หยุดเอาเวลามานั่งอธิบายตัวเองให้คนอื่นฟัง
คนที่เขาเข้าใจและแคร์คุณ (และคนที่คุณควรแคร์) เขาไม่ต้องมานั่งฟังคุณอธิบายว่าคุณเป็นอย่างไร เพราะเขาจะเข้าใจคุณตั้งแต่แรกโดยแทบไม่ต้องพูดอะไรสักนิด ในขณะเดียวกัน คนที่เขาเกลียดคุณหรือเป็นศัตรูคุณเขาก็ไม่มานั่งฟังคุณเช่นกัน (คุณอธิบายไปก็เท่านั้นแหละ)
21. หยุดทำอะไรโดยไม่มีหยุดพัก
จริงอยู่ว่าชีวิตมีเวลาจำกัดที่คุณต้องรีบใช้ให้คุ้ม แต่การคุ้มไม่ใช่แปลว่าคุณไม่ได้พักอะไรเลย การพักบ้างอะไรบ้างมันทำให้คุณได้ถอนหายใจ ได้พิจารณาอะไรหลายๆ อย่างระหว่างพัก ลองหาเวลาที่จะหยุดทำอะไรสักพักแล้วให้เวลากับตัวเองในเรื่องอื่นบ้างก็ไม่เสียหายหรอกครับ
22. หยุดมองข้ามความสวยงามเล็กๆ น้อย
การหาความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้างมันเป็นเรื่องที่ดีและทำให้คุณเห็นคุณค่าของ “เวลา” และ “ชีวิต” มากกว่าที่คุณคิด คุณอาจจะมีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องวิ่งไปข้างหน้าอีกนาน แต่อย่าลืมแวะสนุกกับเรื่องราวริมทางบ้าง มันจะดีมากถ้าคุณสามารถมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับความสุขใหญ่ๆ ที่ปลายทาง
23. หยุดทำให้ทุกอย่างเพอร์เฟค
โลกความจริงมันไม่เหมือนโลกอุดมคติ ไม่มีอะไรที่จะเสร็จสมบูรณ์ไปได้ คนเราย่อมคิดอะไรที่จะแต่งแต้มและเพิ่มให้ดีขึ้นได้อีกเรื่อยๆ การที่เอาแต่บอกว่ามันต้องสมบูรณ์เท่านั้นมันเป็นการตีกรอบให้หลายๆ ทีคุณไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างเพราะคุณเอาแต่คิดว่า “มันไม่ดีพอ” สักกะที
24. หยุดเดินตามเส้นทางที่เน้นปลอดภัยอย่างเดียว
ใครๆ ก็อยากรู้สึกปลอดภัยอยู่ใน Comfort Zone แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนไกล การจะประสบความสำเร็จหรือได้สิง่ที่คุณคู่ควรนั้น ส่วนหนึ่งคือการลองทำสิ่งใหม่ๆ การทำอะไรที่ยากๆ หรือทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ฉะนั้นแล้ว อย่าเอาแต่เลือกเส้นทางแบบ “รักสบาย” ตลอดไป บางครั้งคุณต้องกล้าจะเลือกทางที่จะยากลำบากบ้าง (แล้วมันอาจจะดีเสียกว่าที่คุณเลือกทางสบายๆ เสียอีก)
25. หยุดทำเป็นเหมือนว่าทุกอย่างไม่เป็นไรทั้งที่จริงมันไม่ใช่
การมองโลกในแง่ดีกับการมองโลกโดยไม่อยู่กับความจริงมันเป็นเรื่องที่ฟังดูคล้ายๆ กันแต่ได้ผลคนละเรื่อง คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนที่แข็งแกร่ง ไม่กระเทือน ไม่รู้สึกรู้สาตลอดเวลา บางทีคุณก็ต้องปล่อยให้ตัวเองรู้สึกบ้างอะไรบ้าง เดือดร้อนบ้างตามประสามนุษย์ มันทำให้คุณมีโอกาสได้เป็น “คน” อย่างที่คุณเป็นอยู่แหละครับ
26. หยุดพยายามเป็นทุกอย่างเพื่อทุกๆ คน
ความคิดเรื่องของการเป็น “คนของประชาชน” ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาอย่างคุณควรจะทำ (เว้นแต่คุณจะพยายามเป็นนักการเมืองน่ะนะ) คุณต้องไม่ลืมว่าคนรอบข้างคุณไม่ได้คิดเหมือนกันทุกคน ยิ่งคุณรู้จักคนเยอะ เกี่ยวข้องกับคนเยอะ มันก็ยิ่งมีความต้องการมากมาย ความคาดหวังที่หลากหลาย แล้วมันคงไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องปรับตัวเองเพื่อให้ตอบสนองทุกๆ อย่าง เพราะสุดท้ายก็จะมีแต่ทำให้ตัวตนของคุณบิดเบี้ยวเสียอีกต่างหาก
27. หยุดโทษคนอื่นสำหรับปัญหาของคุณ
การไม่รับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง แต่โยนความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นคือนิสัยของคนที่จะไม่มีวันโตเพราะเขาจะไม่มีวันเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ คนที่จะประสบความสำเร็จคือคนประเภทที่กล้า “รับผิด” และ “รับชอบ” กับตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ “รับชอบ” อย่างเดียว
28. หยุดกังวลเกินไป
การเอาแต่กังวลไปเสียทุกอย่างมีแต่จะทำให้สมองของคุณรวมทั้งความรู้สึกของคุณไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะนำไปสู่ความสุขเลยแถมยังจะฉุดตัวคุณเองในแต่ละวันด้วยซ้ำ เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะกังวลได้ แต่เรื่องบางเรื่องมันยังไม่ถึงเวลา หรือไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะกังวล ถามตัวเองให้ดีเวลาที่คุณจะกังวลกับอะไรว่าคุณควรจะกังวลกับมันไหม
29. หยุดคิดถึงแต่สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้น
แทนที่คุณจะเอาสมาธิไปมัวคิดว่าจะเกิดอะไรที่ไม่พึงประสงค์ คุณควรไปนั่งคิดมากกว่าว่าจะทำอะไรให้เกิดสิ่งที่คุณพึงประสงค์ การคิดในแง่บวก (แบบไม่เกินจริง) คือพื้นฐานที่ทำให้คนคิดก้าวไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นแล้ว เอาพลังและเวลาที่คุณมีไปคิดถึงแต่สิ่งดีๆ ที่คุณอยากทำให้เกิดขึ้นดีกว่าครับ
30. หยุดเฉยชากับโลก
ไม่ว่าโลกมันจะแย่หรือจะดี มันคงจะดีกว่าที่คุณจะรู้สึกดีที่มีชีวิตอยู่และมีวันนี้ (รวมทั้งพรุ่งนี้) มีคนมากมายที่ชีวิตแย่กว่าคุณ (เชื่อเหอะว่ามีจริงๆ) รู้จักยินดีกับสิ่งที่คุณมี พอใจกับความสุขที่คุณได้ในแต่ละวันมันทำให้คุณอยากมีชีวิตต่อไปแทนที่จะมานั่งคิดว่าคุณพลาดอะไรไปบ้าง หรือขาดอะไรไป
และเมื่อใดที่คุณได้เลิกทำทั้ง 30 สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ลองมองกลับดูตัวอย่างว่าชีวิตเรานั้นมีความสุขมากเพิ่มขึ้นหรือไม่ และพยายามทำทุกวันนั้นให้ดีที่สุด เท่านั้นเอง ชีวิตของคุณก็จะมีควมสุขในทุกวันที่อยู่บนโลกใบนี้นั่นเอง
ขอบคุณบทความและเนื้อหาจาก @ nuttaputch.com
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตร
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตร
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!