การไปทำงานต่างประเทศ อาจเป็นความฝันของแรงงานไทยหลายคน

แต่มักจะพบว่ามีสายนายหน้าเถื่อนจำนวนมาก ทำให้เมื่อมีการชักชวนไปทำงานต่างประเทศ ตัวแรงงานเองมักจะเกิดความลังเลด้วยความกลัวว่าจะถูกหลอก

ทำให้นายหน้าต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าหากลุ่มแรงงานเหล่านี้ โดยผ่านทางเพื่อนหรือครอบครัว ที่ผ่านมาจึงมีแรงงานจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของกระบวนการหลอกลวงนี้

ล่าสุดเมื่อมีการเปิดรับสมัคร ทดสอบความสามารถภาษาเกาหลี (EPS – TOPIK) เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อรับสมัครแรงงานที่จะไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี(เกาหลีใต้)

ทำให้เกิดคำถามว่า เมื่อสมัครแล้วจะได้ไปจริงหรือไม่?

ทั้งนี้ การทดสอบภาษาเกาหลีดังกล่าวจัดโดยทางการของเกาหลีใต้เอง เพื่อรับสมัครแรงงานไทยไปทำงานที่เกาหลีใต้ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ซึ่งเป็นความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(เอ็มโอยู)ระหว่างไทยและเกาหลีใต้ ให้มีการทดสอบและจัดส่งผู้ที่ทดสอบผ่านระบบของกรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน หรือที่เรียกว่าการจัดส่งแรงงานแบบรัฐต่อรัฐ

โดยครั้งล่าสุดนี้เป็นการเปิดรับสมัครแรงงานไทยไปทำงานในอุตสาหกรรมการผลิต จำนวน 6,300 อัตรา

สำหรับขั้นตอนนั้น เมื่อผู้สมัครยื่นเอกสารเพื่อขอสมัครทดสอบภาษาเกาหลี ซึ่งผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง18 – 39 ปีบริบูรณ์ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษาร่างกายสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง และไม่เป็นโรคต้องห้ามที่ทางการเกาหลีกำหนด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส วัณโรค ไส้เลื่อน นิ่วในไต โรคหัวใจ ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรง โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้น โรคจิตวิปริตสายตาบอดสี มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติการถูกลงโทษถึงขั้นจำคุก เป็นบุคคลซึ่งไม่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ไม่มีประวัติถูกเนรเทศ หรือเคยถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเกาหลีใต้หรือเคยกระทำผิดกฎหมายของเกาหลีใต้ ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด

ทั้งนี้ผู้สมัครที่ทดสอบภาษาเกาหลีผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้วและยื่นเอกสารเพื่อสมัครไปทำงานที่เกาหลีใต้ จะได้รับการบันทึกข้อมูลเพื่อนำไปจัดทำบัญชีรายชื่อ ส่งให้ทางการเกาหลีใต้ตรวจสอบ เพื่อคัดเลือกแรงงาน โดยการคัดเลือกนั้นเป็นสิทธิของนายจ้างชาวเกาหลีใต้


นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน ระบุว่า แรงงานที่เดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานของประเทศเกาหลีใต้ เทียบเท่ากับแรงงานในประเทศเองและจะได้รับค่าแรงตามกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำของเกาหลีใต้ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำตกชั่วโมงละ 5,210 วอน(ประมาณ 140 บาท) ถ้าคิดเป็นเงินเดือนก็เดือนละ 1,088,890 วอน(ประมาณ 29,400 บาท) ทั้งนี้หากรวมค่าทำงานล่วงเวลาและทำงานในวันหยุดก็ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,500,000 วอน(ประมาณ 40,500 บาท)

ทั้งนี้ ส่วนมากแรงงานไทยที่ไปทำงานจะได้รับค่าแรงเฉลี่ยตั้งแต่ 30,000 – 40,000 บาทต่อเดือน ซึ่งการทำงานในแต่ละอุตสาหกรรมก็จะได้รับค่าจ้างที่ต่างกัน ตั้งแต่ภาคการเกษตรที่ได้ค่าจ้างน้อยที่สุด ส่วนสูงสุดคืออุตสาหกรรมก่อสร้าง

นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า ขอเตือนแรงงานอย่างหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างว่าจะสามารถช่วยให้ไปทำงานที่เกาหลีใต้ได้ เพราะการคัดเลือกเป็นสิทธิของนายจ้างชาวเกาหลีใต้เท่านั้น และเกาหลีใต้ไม่มีการเปิดให้แรงงานเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศก่อนแล้วยื่นขอวีซ่าทำงานภายหลัง มีเพียงการรับสมัครแรงงานจากไทยแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น

โดยแรงงานที่ลักลอบเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้นั้นจะถูกส่งตัวกลับประเทศและจะถูกขึ้นบัญชีไม่ให้เดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก และจะต้องเสียค่าปรับกรณีพำนักผิดกฎหมายเกินกว่า 90 วัน ดังนี้ พำนักผิดกฎหมายน้อยกว่า 1 เดือน เสียค่าปรับ 100,000 วอน พำนักผิดกฎหมายมากกว่า 1 – 3 เดือน เสียค่าปรับ 1.5 ล้านวอน พำนักผิดกฎหมายมากกว่า 3 – 6 เดือน เสียค่าปรับ 2 ล้านวอน พำนักผิดกฎหมายมากกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี เสียค่าปรับ 4 ล้านวอน

หากมีผู้ชักชวนโดยให้เสียเงินค่าสมัครจำนวนมาก หรือต้องการสอบถามข้อมูลการไปทำงานต่างประเทศ สามารถแจ้งมายังสำนักงานจัดหางานทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกรมการจัดหางาน เบอร์โทรศัพท์ 1694 ได้

ที่มา http://www.matichon.co.th/news/58959