กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. พบการค้างชำระหนี้กว่า 56,000 ล้านบาท โดยพบว่า มีข้าราชการกว่า 6 หมื่นคน เป็นลูกหนี้ที่ไม่ยอมจ่าย และกว่าพันคนเป็นข้าราชการในกระทรวงการคลัง ต้นสังกัดของ กยศ.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการกยศ. เปิดเผยว่า สาเหตุเกิดจากการเข้าใจผิดว่าเป็นทุนให้เปล่า และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งใจไม่จ่าย เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือกับ 20 กระทรวง และรัฐวิสาหกิจ 50 แห่ง ตรวจสอบรายชื่อข้าราชการ พนักงานภายใต้สังกัด ว่าเป็นลูกหนี้ กยศ.หรือไม่

โดยหากยินยอมให้หักเงินเดือน จะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ เช่น ไม่ต้องเสียค่าปรับ 100 เปอร์เซ็นต์ และหากชำระทั้งหมดจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 1 ของเงินต้นคงเหลือ

สำหรับการทำข้อตกลงในการชำระหนี้ โดยขอให้ลูกหนี้แจ้งความจำนงภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะมีการลงนามทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ไม่เกินปลายเดือนมีนาคม โดย กยศ.จะให้เวลาในการเริ่มชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนนี้เป็นต้นไป

ขณะที่ข้อมูลค้างชำระหนี้เงินกู้ กยศ. พบว่า มีผู้ค้างชำระหนี้ กยศ. จำนวนประมาณ 2 ล้านคน จากผู้กู้ทั้งหมด 4 ล้าน 5 แสนคน คิดเป็นเงินกว่า 5 หมื่น 6 พันล้านบาท โดยผู้ค้างชำระที่เป็นข้าราชการ เบื้องต้นพบกว่า 6 หมื่นคน ในจำนวนนี้ประมาณ 1 พันคน เป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงการคลัง และ เป็นข้าราชการสังกัดกรมสรรพากรประมาณ 700 คน

ทั้งนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายกองทุนเพื่อการศึกษา มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมหนี้ กยศ. โดยกำหนดให้นายจ้างหักเงินเดือนลูกจ้างที่ค้างชำระหนี้เงินกู้ กยศ. เพื่อนำส่งให้ กยศ. ผ่านกรมสรรพากร พร้อมกันกับการนำส่งเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย

นอกจากนี้ยังแผนร่วมกับองค์กรนายจ้าง ให้หักเงินจากบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง เพื่อนำส่งแก่ กยศ. โดยปีนี้ จะได้นำร่องกับ 4 องค์กรนายจ้าง อย่าง ม.นเรศวร , วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก เป็นต้น

ส่วนแผนการปล่อยกู้ปี 2559 โดยผู้กู้เป้าหมายมีจำนวน 6 แสน 7 หมื่น คน แบ่งเป็น ผู้กู้รายเก่า 4 แสน 7 หมื่นคน / ผู้กู้รายใหม่ 2 แสนคน รวมเป็นวงเงิน 2 หมื่น 7 พันล้านบาท และสำหรับผู้กู้ที่ศึกษาในระดับมัธยมปลายถึงปริญญาตรีต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยที่ 2.00 และ ต้องทำโครงการเพื่อสังคมจำนวน 36 ชั่วโมง แต่สำหรับผู้กู้ที่ศึกษาในระดับอาชีวะศึกษา ไม่ต้องมีเงื่อนไขในลักษณะดังกล่าว

ที่มา http://workpointtv.com