รู้ไหม 9 เรื่อง ดีๆ ที่พ่อแม่ควรทำก่อนลูกโต

นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
แน่นอนว่าการพัฒนาการของเด็กเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะอย่างนั้นพ่อแม่ควรดูแลเอาใจใส่ในทุกๆด้านของลูก เพื่อที่จะทำให้เขาโตขึ้นแล้วเป็นเด็กดี มีสุขภาพดีดี เป็นคนที่มีความคิดความฉลาด สามารถดูแลตัวเองและเป็นคนดีของสังคมได้ วันนี้เรามารู้ 9 เรื่อง ดีๆ ที่พ่อแม่ควรทำก่อนลูกโต ( สาระน่าอ่าน ) ที่พ่อแม่ควรรู้มาให้อ่านกัน
1 ให้นมแม่
นมแม่เป็นมากกว่าอาหารที่เลี้ยงบำรุงร่างกาย แต่ยังเป็นอาหารสมอง ต้นทุนชีวิต เป็นอาหารทางใจที่หล่อเลี้ยงชีวิต เพราะทุกครั้งที่ลูกอยู่ในอ้อมกอดขณะที่กินนมแม่ สมองของลูกน้อยจะจดจำเรื่องราวดีๆ ผ่านการมองเห็น กลิ่นกาย ผิวสัมผัส และรสชาติน้ำนมแม่ เป็นสายใยความผูกพันที่คุณและลูกก็รู้สึกดีด้วย
2 กอดทุกวัน
ในเชิงชีววิทยา การกอดจะกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ให้ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ทั่วถึง เราจึงรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา อีกทั้งการกอดยังเป็นการถ่ายทอดกำลังใจ ความรัก ความอบอุ่น คุณจะสังเกตได้ว่า เวลาลูกร้องไห้ โยเย การที่คุณได้โอบอุ้ม โอบกอดลูกเอาไว้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน จะช่วยให้ลูกสงบนิ่ง หยุดร้องได้ ถ้าลูกวัยรุ่น อ้อมกอดและความเข้าใจของพ่อกับแม่ในทุกสถานการณ์เป็นยาวิเศษที่บรรเทาปัญหาของลูกวัยนี้
3 บันทึกเรื่องของลูก
การเก็บความทรงจำของคนเราทำได้มากมายไม่ว่าเก็บไว้ในใจ เก็บเป็นภาพถ่าย หรือเลือกที่จะเก็บผ่านทางตัวอักษรนั่นก็คือการเขียนบันทึก จะเรื่องสนุก ความประทับใจเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณใช้เลี้ยงลูกพัฒนาการของลูกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณสุข เศร้า เหนื่อย ยิ้ม หัวเราะ เพราะเมื่อเวลาล่วงเลยไป สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ก็อาจจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา การบันทึกเรื่องราวเอาไว้ อาจไม่ต้องจดทุกวันแต่จดในสิ่งที่คุณอยากจำและต้องการให้ลูกรับรู้เมื่อเขาโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกรู้จักความรักของแม่มากยิ่งขึ้น
4 นิสัยรักการอ่าน
การสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดกับลูกตั้งแต่วัยเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต เพราะการอ่านจะช่วยในเรื่องทักษะภาษา การรู้จักใช้จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ (จำเป็นมากๆ สำหรับโลกยุคนี้และยุคหน้า) การหาความรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือกับลูกก็เป็นการสร้างความสุข สร้างกิจกรรมให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว
5 รู้จักธรรมะที่ถูกต้อง
ที่จริงธรรมะอยู่ใกล้ตัว เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา เพียงแค่การสั่งสอน อบรม หรือพูดเรื่องธรรมะกับเด็กนั้น อาจต้องย่อยให้เด็กเข้าใจได้ง่าย เช่น ให้ลูกวัยอนุบาลช่วยจัดโต๊ะกินข้าว ให้ลูกช่วยยกชามที่เป็นกระเบื้อง เด็กสามารถทำได้ถ้าพ่อแม่มีความไว้วางใจ สอนลูกอย่างเข้าใจ บอกหลักง่ายๆ “ถือแน่นๆ เดินช้าๆ นะลูก”สิ่งเหล่านี้คือการปลูกฝังธรรมะในชีวิตประจำวัน สร้างธรรมะในตัวลูกตั้งแต่ยังเยาว์วัย ขอแค่ให้ลูกระลึกถึงความถูก-ผิดเป็นสรณะไม่ว่าจะทำการณ์ใดๆ ในชีวิต ส่วนการที่เด็กๆ ไปนั่งสมาธิหรือเข้าวัดฟังธรรมกันเป็นประจำ นั่นเป็นวิธีการส่วนหนึ่งในการเรียนรู้เรื่องธรรมะเมื่อเขาเติบโต
6 คุยด้วยความเข้าใจ
ยุคสังคมก้มหน้า พ่อแม่ และลูกตกอยู่ในวังวนเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสาร เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ จนลืมหันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับการพูดคุย สอบถามความเป็นไปห่วงใยกันและกัน จนเกิดเป็นความห่างเหินลองพักสายตา หยุดใช้นิ้วมือ แล้วใช้สายตามองลูก พูดคุยสอบถามเรื่องของลูกด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ จริงใจ การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกรู้สึกถึงความรักความห่วงใยของคุณพร้อมที่จะบอกเล่าและปรึกษากับคุณในทุกๆ เรื่อง คุณคงไม่อยากให้ปัญหาของลูกสายเกินแก้ ใช่ไหมค่ะ
7 เล่นด้วยกัน
การเล่นเป็นเรื่องที่ดีเสมอของเด็กเมื่อเด็กได้เล่นเกิดความสนุก การเรียนรู้ การจดจำ เลียนแบบ เพียงแค่วิธีการเล่นนั้นเปลี่ยนไปตามพัฒนาการ ช่วงวัยของลูก การเล่นกับลูก ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจลูกว่ามีลักษณะ ความชอบ บุคลิกเป็นอย่างไร เราสามารถสร้างทักษะ สร้างประสบการณ์ สร้างความทรงจำ ผ่านการเล่นกับลูกได้มากมาย และเมื่อลูกมีความสุขกับการเล่น ความสุขที่เกิดขึ้นจะสร้างตัวตนของลูกขึ้นมาได้
8 เที่ยวไปด้วยกัน
พาลูกออกนอกห้องเรียน สร้างประสบการณ์ดีๆ จากการท่องเที่ยว ให้ลูกของคุณได้ทั้งความสนุก ได้รับประสบการณ์ ความรู้จากการเรียนรู้ของจริงที่พบเจอ เช่น การไปดูนก การไปเดินป่า เล่นทราย เรียนรู้ตามพิพิธภัณฑ์ เรื่องแบบนี้ในห้องเรียนเป็นเพียงแค่ข้อมูลส่วนหนึ่ง เราไม่อาจพิสูจน์ความจริงได้ ถ้าไม่ก้าวขาออกมาค้นหา และคุณก็คือคนที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างการเรียนรู้ของลูก
9 ให้เวลาคุณภาพ
มีการพิสูจน์แล้วว่า สิ่งแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงศักยภาพที่ถูกกำหนดมาทางพันธุกรรม นั่นก็หมายความว่า สองมือของพ่อแม่ สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเสริมสร้างสิ่งดีๆ ที่จะเกิดกับตัวลูกได้แน่นอน โดยเฉพาะสังคมของการแข่งขันที่พ่อแม่อาจมีเงื่อนไขของเวลาเป็นส่วนประกอบ เราจึงหวังว่าทุกช่วงเวลาของคุณกับลูก เป็นช่วงเวลาคุณภาพจริงๆ
ที่มา http://www.motherandcare.in.th

นมแม่เป็นมากกว่าอาหารที่เลี้ยงบำรุงร่างกาย แต่ยังเป็นอาหารสมอง ต้นทุนชีวิต เป็นอาหารทางใจที่หล่อเลี้ยงชีวิต เพราะทุกครั้งที่ลูกอยู่ในอ้อมกอดขณะที่กินนมแม่ สมองของลูกน้อยจะจดจำเรื่องราวดีๆ ผ่านการมองเห็น กลิ่นกาย ผิวสัมผัส และรสชาติน้ำนมแม่ เป็นสายใยความผูกพันที่คุณและลูกก็รู้สึกดีด้วย

ในเชิงชีววิทยา การกอดจะกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ให้ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ทั่วถึง เราจึงรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา อีกทั้งการกอดยังเป็นการถ่ายทอดกำลังใจ ความรัก ความอบอุ่น คุณจะสังเกตได้ว่า เวลาลูกร้องไห้ โยเย การที่คุณได้โอบอุ้ม โอบกอดลูกเอาไว้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน จะช่วยให้ลูกสงบนิ่ง หยุดร้องได้ ถ้าลูกวัยรุ่น อ้อมกอดและความเข้าใจของพ่อกับแม่ในทุกสถานการณ์เป็นยาวิเศษที่บรรเทาปัญหาของลูกวัยนี้

การเก็บความทรงจำของคนเราทำได้มากมายไม่ว่าเก็บไว้ในใจ เก็บเป็นภาพถ่าย หรือเลือกที่จะเก็บผ่านทางตัวอักษรนั่นก็คือการเขียนบันทึก จะเรื่องสนุก ความประทับใจเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณใช้เลี้ยงลูกพัฒนาการของลูกเหตุการณ์ที่ทำให้คุณสุข เศร้า เหนื่อย ยิ้ม หัวเราะ เพราะเมื่อเวลาล่วงเลยไป สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ก็อาจจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา การบันทึกเรื่องราวเอาไว้ อาจไม่ต้องจดทุกวันแต่จดในสิ่งที่คุณอยากจำและต้องการให้ลูกรับรู้เมื่อเขาโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกรู้จักความรักของแม่มากยิ่งขึ้น

การสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดกับลูกตั้งแต่วัยเด็ก มีผลต่อการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต เพราะการอ่านจะช่วยในเรื่องทักษะภาษา การรู้จักใช้จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ (จำเป็นมากๆ สำหรับโลกยุคนี้และยุคหน้า) การหาความรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือกับลูกก็เป็นการสร้างความสุข สร้างกิจกรรมให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว

ที่จริงธรรมะอยู่ใกล้ตัว เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา เพียงแค่การสั่งสอน อบรม หรือพูดเรื่องธรรมะกับเด็กนั้น อาจต้องย่อยให้เด็กเข้าใจได้ง่าย เช่น ให้ลูกวัยอนุบาลช่วยจัดโต๊ะกินข้าว ให้ลูกช่วยยกชามที่เป็นกระเบื้อง เด็กสามารถทำได้ถ้าพ่อแม่มีความไว้วางใจ สอนลูกอย่างเข้าใจ บอกหลักง่ายๆ “ถือแน่นๆ เดินช้าๆ นะลูก”สิ่งเหล่านี้คือการปลูกฝังธรรมะในชีวิตประจำวัน สร้างธรรมะในตัวลูกตั้งแต่ยังเยาว์วัย ขอแค่ให้ลูกระลึกถึงความถูก-ผิดเป็นสรณะไม่ว่าจะทำการณ์ใดๆ ในชีวิต ส่วนการที่เด็กๆ ไปนั่งสมาธิหรือเข้าวัดฟังธรรมกันเป็นประจำ นั่นเป็นวิธีการส่วนหนึ่งในการเรียนรู้เรื่องธรรมะเมื่อเขาเติบโต

ยุคสังคมก้มหน้า พ่อแม่ และลูกตกอยู่ในวังวนเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสาร เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ จนลืมหันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับการพูดคุย สอบถามความเป็นไปห่วงใยกันและกัน จนเกิดเป็นความห่างเหินลองพักสายตา หยุดใช้นิ้วมือ แล้วใช้สายตามองลูก พูดคุยสอบถามเรื่องของลูกด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ จริงใจ การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกรู้สึกถึงความรักความห่วงใยของคุณพร้อมที่จะบอกเล่าและปรึกษากับคุณในทุกๆ เรื่อง คุณคงไม่อยากให้ปัญหาของลูกสายเกินแก้ ใช่ไหมค่ะ

การเล่นเป็นเรื่องที่ดีเสมอของเด็กเมื่อเด็กได้เล่นเกิดความสนุก การเรียนรู้ การจดจำ เลียนแบบ เพียงแค่วิธีการเล่นนั้นเปลี่ยนไปตามพัฒนาการ ช่วงวัยของลูก การเล่นกับลูก ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจลูกว่ามีลักษณะ ความชอบ บุคลิกเป็นอย่างไร เราสามารถสร้างทักษะ สร้างประสบการณ์ สร้างความทรงจำ ผ่านการเล่นกับลูกได้มากมาย และเมื่อลูกมีความสุขกับการเล่น ความสุขที่เกิดขึ้นจะสร้างตัวตนของลูกขึ้นมาได้

พาลูกออกนอกห้องเรียน สร้างประสบการณ์ดีๆ จากการท่องเที่ยว ให้ลูกของคุณได้ทั้งความสนุก ได้รับประสบการณ์ ความรู้จากการเรียนรู้ของจริงที่พบเจอ เช่น การไปดูนก การไปเดินป่า เล่นทราย เรียนรู้ตามพิพิธภัณฑ์ เรื่องแบบนี้ในห้องเรียนเป็นเพียงแค่ข้อมูลส่วนหนึ่ง เราไม่อาจพิสูจน์ความจริงได้ ถ้าไม่ก้าวขาออกมาค้นหา และคุณก็คือคนที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างการเรียนรู้ของลูก

มีการพิสูจน์แล้วว่า สิ่งแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงศักยภาพที่ถูกกำหนดมาทางพันธุกรรม นั่นก็หมายความว่า สองมือของพ่อแม่ สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเสริมสร้างสิ่งดีๆ ที่จะเกิดกับตัวลูกได้แน่นอน โดยเฉพาะสังคมของการแข่งขันที่พ่อแม่อาจมีเงื่อนไขของเวลาเป็นส่วนประกอบ เราจึงหวังว่าทุกช่วงเวลาของคุณกับลูก เป็นช่วงเวลาคุณภาพจริงๆ
ที่มา http://www.motherandcare.in.th
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
เปิดระบบแล้ว!!!สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก ประจำปี 2565

เปิดระบบแล้ว!!!กรมสรรพากร เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 300 อัตรา

กรมคุมประพฤติ เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 98 อัตรา

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รับสมัครพนักงานราชการ 45 อัตรา

กระทรวงการอุดมศึกษา เปิดรับสมัครงาน 68,350 อัตรา

ออมสินให้กู้สูงสุด 10 ล้านบาท "สินเชื่อไทรทองส่วนบุคคล" รวมหนี้ได้ เช็กเงื่อนไขเลย
กรมทางหลวง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 52 อัตรา

สำนักงบประมาณ เปิดรับสมัครสอบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา
สำนักงาน ก.พ. ประกาศ รายชื่อผู้สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2565

เปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการ จำนวน 2,289 อัตรา

สำนักงานประกันสังคม เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา

กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 119 อัตรา

กองทัพเรือ เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือน เพื่อบรรจุ 120 อัตรา

กู้เงินออมสิน 500,000 บาท "ไม่ต้องมีคนค้ำ" ผ่อนนาน 10 ปี เช็กเงื่อนไขเลย!

IELTS | ข้อสอบ toeic
เปิดระบบแล้ว!!!สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก ประจำปี 2565

เปิดระบบแล้ว!!!กรมสรรพากร เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 300 อัตรา

กรมคุมประพฤติ เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 98 อัตรา

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รับสมัครพนักงานราชการ 45 อัตรา

กระทรวงการอุดมศึกษา เปิดรับสมัครงาน 68,350 อัตรา

ออมสินให้กู้สูงสุด 10 ล้านบาท "สินเชื่อไทรทองส่วนบุคคล" รวมหนี้ได้ เช็กเงื่อนไขเลย

กรมทางหลวง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 52 อัตรา

สำนักงบประมาณ เปิดรับสมัครสอบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา

สำนักงาน ก.พ. ประกาศ รายชื่อผู้สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2565

เปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการ จำนวน 2,289 อัตรา

สำนักงานประกันสังคม เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา

กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 119 อัตรา

กองทัพเรือ เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือน เพื่อบรรจุ 120 อัตรา

กู้เงินออมสิน 500,000 บาท "ไม่ต้องมีคนค้ำ" ผ่อนนาน 10 ปี เช็กเงื่อนไขเลย!
