คนที่เป็นหัวหน้า และมีลูกน้องที่ต้องบริหารจัดการ ต่างก็คิดและคาดหวังเหมือนกันว่า อยากได้ลูกน้องที่ทำผลงานได้ดี เพราะถ้าผลงานของลูกน้องทุกคนอยู่ในเกณฑ์ดี ผลงานของหัวหน้าเองก็ดีไปด้วย แล้วในฐานะหัวหน้า เราจะต้องทำอย่างไรให้ลูกน้องมีผลงานที่ดีได้

เคยได้ยินหัวหน้างานหลายคนมาเล่าให้ฟังว่า อยากให้ลูกน้องได้ผลงานดีหรอ ไม่ยากเลย ก่อนอื่นก็คือ คิดไว้ในใจก่อนเลยว่าอยากให้ใครมีผลงานที่ดี จากนั้นก็หยิบเอาแบบฟอร์มการประเมินผลงานมา แล้วก็ใส่คะแนนดีๆ เข้าไปเลย รวมคะแนนแล้วถ้ายังไม่ได้อย่างที่คิดไว้ก็กลับไปแก้ไขคะแนนใหม่ในบางปัจจัย เพื่อทำให้คะแนนผลงานออกมาดี แค่นั้น ผลงานของพนักงานก็จะออกมาดีแล้ว

ใช่หรือ ????

จะว่าไปหลายองค์กรก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่อยากจะเขียนบอกเล่ากันในวันนี้ก็คือ วิธีที่จะทำให้พนักงานมีผลงานที่ดีจริงๆ แบบว่า เรารับพนักงานเข้ามาคนนึง มาเป็นลูกน้อง มาช่วยงานของเรา ด้วยตรรกะปกติของคนเป็นหัวหน้า ก็ต้องอยากให้ลูกน้องที่เราจ้างมานั้น ทำงานได้ดี ถูกมั้ยครับ แล้วเราจะมีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะทำให้พนักงานของเรามีผลงานที่ดีขึ้นจริงๆ มาดูกันครับ

    แจ้งเป้าหมายและความคาดหวังผลงานอย่างชัดเจน สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ ต้องบอกพนักงานให้รู้ว่าผลงานที่ว่าดีนั้น มีลักษณะอย่างไร ต้องทำอะไรให้ได้บ้าง และอะไรที่เรียกว่าทำได้ดี อะไรที่เรียกว่าทำไม่ดี เป้าหมายของการทำงานในปีนี้คืออะไร อยากเห็น อยากได้อะไรออกมาบ้าง ถ้าเราไม่เคยบอกลูกน้องเราว่าเราคาดหวังผลงานที่ดีอย่างไรบ้าง แล้วลูกน้องเราจะสร้างผลงานที่ดีได้อย่างไร จริงมั้ยครับ

    ติดตาม และบอกถึงความคืบหน้าของงานอย่างสม่ำเสมอ งานบางงานเป็นงานที่ต้องมีขั้นตอนในการทำงาน มีช่วงการตรวจสอบความคืบหน้าของงาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่หัวหน้าควรจะต้องบอกกล่าวกับพนักงานด้วย ว่าขณะนี้งานได้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เมื่อเทียบกับแผนงานที่วางไว้ เพื่อที่จะทำให้พนักงานได้ทราบว่าขณะนี้ผลงานของตนองน่าจะดีหรือไม่ดีอย่างไร จะได้พัฒนาตนเองได้

    ให้ Feedback ผลงานทั้งในมุมบวก และมุมลบ เรื่องของ Feedback ผลงานนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่า ถ้าเราสามารถให้ Feedback ผลงานแก่พนักงานได้ชัดเจน จะทำให้ผลงานของพนักงานได้รับการพัฒนาดีขึ้นได้ เพราะเป็นการบอกพนักงานว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีซึ่งต้องรักษาระดับไว้ให้ดี และอะไรที่เป็นสิ่งที่ยังไม่ค่อยดี ซึ่งจะต้องพัฒนา ถ้าเราไม่เคยบอกสิ่งที่ไม่ถูก ไม่ควรกับพนักงานเลย พอพนักงานไม่ทราบ ก็มักจะคิดไปเองว่างานที่ตนเองทำอยู่นั้นมันดีอยู่แล้ว เพราะนายไม่เคยบอกอะไร ดังนั้นก็ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าแบบนั้นมันเป็นงานที่ไม่ดี ก็แสดงว่า พนักงานจะทำไม่ดีต่อไปเรื่อยๆ เช่นกัน

    สอนงานพนักงาน นอกจาก Feedback ผลงานแล้ว สิ่งที่หัวหน้าจะต้องทำก็คือ การสอนงานลูกน้อง เพื่อทำให้ลูกน้องมีความรู้ ทักษะ และความสามารถในการทำงานที่ดีขึ้น คนเราไม่ได้เกิดมาเก่งเลย ถ้าเราอยากให้พนักงานของเราเก่ง และมีผลงานที่ดี แต่เราไม่เคยสอนอะไรเขาเลย แล้วเขาจะเก่งได้อย่างไร ถ้าเราอยากให้เขามีพฤติกรรมในการทำงานที่ดีขึ้น แต่เราไม่เคยที่จะ Coach เขาเลย แล้วเขาจะทำได้อย่างไร ดังนั้น ถ้าเราอยากให้พนักงานของเราทำงานได้อย่างที่เราต้องการ ก็คงต้องมีการให้คำแนะนำและสอนงานกันอย่างต่อเนื่อง

    ให้กำลังใจ และสร้างแรงจูงใจอย่างสม่ำเสมอ ประเด็นสุดท้ายก็คือ หัวหน้างานคงต้องพยายามที่จะรักษาระดับแรงจูงใจของพนักงานไม่ให้ตกลง แต่ถ้ามีโอกาสได้ ก็ควรจะทำให้แรงจูงใจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า ดังนั้น เรื่องขวัญและกำลังใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพนักงานทำงานได้ดี ก็ควรจะต้องขอบคุณ และให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ หรือในทางตรงกันข้าม พนักงานทำงานได้ไม่ดี เราก็ยิ่งควรจะต้องทำความเข้าใจ และให้กำลังใจ เพื่อให้พนักงานพัฒนาตนเองให้มีผลงานที่ดีขึ้น

นี่คือ 5 วิธีการที่จะทำให้ผลงานของพนักงานดีขึ้น ในทางปฏิบัติอาจจะมีความยากบ้าง ง่ายบ้าง ขึ้นอยู่กับพนักงานแต่ละคนว่าจะมีสไตล์และวิธีการทำงานอย่างไรด้วยเช่นกัน ซึ่งหัวหน้าเองก็ต้องทำหน้าที่ในการออกแบบ และปรับวิธีการของตนเองให้เข้ากับพนักงานแต่ละคน

ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เราสามารถดึงเอาศักยภาพ และความสามารถของพนักงานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุดให้กับเรา และองค์กรนั่นเองครับ

ที่มา https://prakal.wordpress.com