ปัจจุบันการเล่นกีฬานั้นถือเป็นความนิยมมากสำหรับคนไทย ทั้งวัยรุ่น หนุ่มสาว และบุคคลที่มีอายุมากต่างพากันหันมาเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพมากขึ้น เพราะจะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ห่างไกลจากโรคนั่นเองและเมื่อมีการเล่นกีฬาย่อมมีการเกิดอุบัติเหตุตามมา เช่น 
-การเคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น
-การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลัง
-กล้ามเนื้อบริเวณต้นขาหรือขาหนีบฉีกขาด
-เอ็นส้นเท้าอักเสบ
-เอ็นร้อยหวายขาด
-กระดูกหัก
-กระดูกเคลื่อนหรือหลุด
-ถุงน้ำในข้อเสื่อม
-ผิวหนังบวมพอง
-โดนกระแทกเบ้าตา
-เป็นตะคริว
ซึ่งเราจะมาดูทีละข้อว่าเมื่อเกิดแล้วมีอาการอย่างไรและเราจะปฐมพยาบาลกันอย่างไร

การเคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น
กีฬาที่ทำให้เกิดการเคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว หรือการยกน้ำหนัก ซึ่งจะเกิดอาการปวด บวม และ เขียวช้ำ

วิธีการช่วยเหลือ หรือปฐมพยาบาล
ประคบเย็น แล้วใช้ยาสำหรับทาบรรเทาอาการฟกช้ำ หรือบรรเทาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ โดยการนวดเบา ๆ ถ้ามีการใส่เครื่องประดับตรงอวัยวะนั้น ๆ ต้องถอดออกก่อนที่จะมีอาการบวม ซึ่งจะทำให้เครื่องประดับรัดทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก

การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลัง
กีฬาที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลัง เช่น เทนนิส การวิ่งเป็นเวลานาน หรือกีฬาที่ทำให้มีการหมุนตัว ก้มหรือเอี้ยวตัวผิดจังหวะ

อาการบาดเจ็บ บริเวณกล้ามเนื้อหลัง เกิดจากส่วนของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาทที่อยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง

วิธีการช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล
1. หลังเกิดอาการปวดหลังต้องนอนพักและ หยุดกิจกรรมที่ทำ และควรระมัดระวังการเคลื่อนไหวของร่างกายเช่น ไม่ควรก้มหรือบิดตัว และ ใช้ความเย็นประคบที่บริเวณหลัง
2. สามารถใช้การประคบร้อนหลังจากวันแรกของการบาดเจ็บ
3. ออกกำลังกายหลังจากอาการเริ่มดีขึ้นเพื่อป้องกันภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการพักการเคลื่อนไหวนานเกินไป โดยเริ่มจากการเล่นกีฬาเบา ๆ ก่อน หลังจากนั้น จึงค่อย ๆ เพิ่มความแรงขึ้น

กล้ามเนื้อบริเวณต้นขาหรือขาหนีบฉีกขาด
ส่วนใหญ่มักเกิดกับนักกรีฑา เนื่องจากการเปลี่ยนทิศทางการวิ่งกะทันหัน การออกตัวอย่างรวดเร็ว หรือหยุดวิ่งแล้วกลับมาวิ่งอีกทันที จะมีอาการปวดบริเวณขาหนีบตรงง่ามขา ให้ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก และควรหยุดเล่นกีฬาประมาณ 2 สัปดาห์ พักให้อาการหายดีก่อน แล้วใช้วิธียืดกล้ามเนื้อจะช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
การป้องกัน ควรอบอุ่นร่างกายก่อนการเล่นกีฬาทุกครั้ง เพื่อปรับสภาพกล้ามเนื้อก่อนการเล่นกีฬา

เอ็นส้นเท้าอักเสบ
การบาดเจ็บ และมีการอักเสบของเส้นเอ็นที่ส้นเท้าซึ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้า ทำให้มีความเจ็บปวดเวลาเคลื่อนไหว หรืออาจรู้สึกรำคาญ และอาจเกิดการฉีกขาดของเส้นเอ็บบริเวณนี้ได้ถ้ามีการฝืนเล่นกีฬาหรือเคลื่อนไหวต่อไป ผู้ที่มีอาการเส้นเอ็นส้นเท้าอักเสบต้องพักจนกว่าจะหายดี

เอ็นร้อยหวายขาด
เอ็นร้อยหวายเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อน่องและหัวเข่า ซึ่งเกิดการฉีกขาดได้จากการวิ่ง หรือข้อเท้าแพลง

การปฐมพยาบาล
ประคบเย็น รัดด้วยผ้ายืด ใส่เฝือก และไปพบแพทย์

กระดูกหัก
การได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงขณะเล่นกีฬาทำให้เกิด การหักร้าวของกระดูกได้

การช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล
ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในทันที ต้องได้รับการตรวจประเมินร่างกาย และความผิดปกติของอวัยวะแขน ขา ก่อนว่ามีการผิดรูปหรือไม่ มีบาดแผลหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเช่น พยาบาล หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านการแพทย์ให้การช่วยเหลือในการ ผูกยึดอวัยวะก่อนเคลื่อนย้าย

กระดูกเคลื่อนหรือหลุด
การถูกกระแทก หมุนหรือ ถูกแรงดึงอย่างแรงและรวดเร็ว อาจทำให้กระดูกเคลื่อนหลุดออกมาจากเบ้า ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และมีความเจ็บปวดมาก การช่วยเหลือเบื้องต้น ต้องให้ผู้บาดเจ็บเคลื่อนไหวน้อยที่สุด ห้ามจับข้อกระดูกให้กลับเข้าที่ด้วยตัวเอง นำส่งแพทย์ทันที

ถุงน้ำในข้อเสื่อม
ข้อต่างๆ ภายในร่างกายจะมีถุงน้ำรองรับการกระแทกและช่วยให้การเคลื่อนไหวไม่เกิดการเสียดสีของข้อ ผู้ที่มี อาการถุงน้ำในข้อเสื่อมจะทำให้เกิดอาการปวดข้อเวลาที่เคลื่อนไหวมากๆ หรือทำซ้ำท่าเดิมบ่อยๆ ต้องออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก และไปพบแพทย์

ผิวหนังบวมพอง
เกิดจากการเสียดสีซ้ำ ๆ จากการจับเครื่องมือในการเล่นกีฬา กอล์ฟ แบดมินตัน แร็กเก็ตเทนนิส หรือเสียดสีกับรองเท้าที่ไม่กระชับพอดี ทำให้เกิดเป็นตุ่มน้ำใสๆ ตรงผิวหนังที่ถูกเสียดสี

การปฐมพยาบาล หรือการช่วยเหลือ
สามารถหายเองได้ โดยตุ่มน้ำจะแตกออกประมาณ 2-3 วัน และผิวหนังจะงอกใหม่มาแทน หรือสามารถใช้เข็มสะอาดเจาะเอาน้ำออก โดยไม่ต้องลอกหนังที่ปิดอยู่ออก หลังจากนั้นผิวหนังใหม่จะถูกสร้างขึ้นมาแทน

โดนกระแทกเบ้าตา
ส่วนใหญ่เกิดจากกีฬา ที่ทำให้เกิดกระแทกอย่างรุนแรง การตบลูกแบด หรือลูกเทนนิสใส่ตา ทำให้เกิดอาการช้ำใต้ตา เลือดออกในลูกตา ให้ล้างตา ปิดตาทั้งสองข้าง และไปพบแพทย์

เป็นตะคริว
ตะคริวอาจเกิดจากร่างกายขาดแร่ธาตุ เช่น โปแตสเซียม ขาดน้ำ หายใจเร็วกว่าปกติ หรือเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่พอ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว จะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่นาน แต่ถ้าเป็นมากอาจปวดนานหลายชั่วโมง บางครั้ง อาการจะหายไปได้เอง ในระยะต่อมา การปฐมพยาบาลทำได้โดยค่อยๆ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว

ที่มา โรงพยาบาลพญาไท ศรีวิชา