บังคับใช้พรุ่งนี้!! เปิดกฎ ก.พ.อ. 6ข้อ กรณีสั่งขรก.มหา&39;ลัยออกจากราชการ เหตุไม่ผ่านการประเมิน
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
ถือว่าเป็นเรื่องที่ฮือฮามาก " บังคับใช้พรุ่งนี้!! เปิดกฎ ก.พ.อ. 6ข้อ กรณีสั่งขรก.มหา'ลัยออกจากราชการ เหตุไม่ผ่านการประเมิน "
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ (14ก.ค.) กฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล พ.ศ. ๒๕๕๘
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔ (๔) และมาตรา ๕๗ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ก.พ.อ. จึงออกกฎ ก.พ.อ. ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กฎ ก.พ.อ. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดออกจากราชการ เพื่อรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล ในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการนั้น ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาจากผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเป็นหลัก และให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาดําเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนดในกฎ ก.พ.อ. นี้
ข้อ ๓ เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนดตามมาตรา ๑๐ แล้ว เห็นว่า ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดมีผลการปฏิบัติราชการในระดับที่ต้องให้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้แจ้งผู้นั้นทราบเกี่ยวกับผลการประเมินพร้อมทั้งกําหนดให้ผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยให้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยกําหนดเป้าหมายในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการให้ชัดเจน เพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการครั้งต่อไป การประเมินผลการปฏิบัติราชการและการพัฒนาปรับปรุงตนเองของข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ให้มีระยะเวลาไม่เกินสามรอบการประเมินในกรณีที่ผู้ถูกประเมินเห็นว่าการประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้บังคับบัญชา มีความไม่เป็นธรรม อาจทําคําคัดค้านยื่นต่อผู้บังคับบัญชารวมไว้กับผลการประเมินเพื่อเป็นหลักฐานได้
ข้อ ๔ เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองตามข้อ ๓ แล้ว ปรากฏว่าผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้รายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ เมื่อได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ อาจดําเนินการดังต่อไปนี้
(๑) กรณีข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้รับการประเมินประสงค์จะออกจากราชการ ก็ให้สั่งให้ออกจากราชการ
(๒) สั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองอีกครั้งหนึ่งโดยทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองเป็นครั้งที่สอง หรือ
(๓) สั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการกรณีผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ มีคําสั่งตามวรรคสอง (๒) ให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยให้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยกําหนดเป้าหมายในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการให้ชัดเจนเป็นครั้งที่สองเพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการครั้งต่อไป เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการ
ของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองในครั้งที่สองแล้ว ปรากฏว่าผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง
ให้รายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ เพื่อสั่งให้ข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการ
ข้อ ๕ เมื่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ มีคําสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการตามข้อ ๔ แล้ว ให้รายงานสภาสถาบันอุดมศึกษาทราบ ในกรณีที่สภาสถาบันอุดมศึกษาเห็นว่าคําสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมและมีมติเป็นประการใด ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ ปฏิบัติให้เป็นไปตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติ และให้แจ้งคําสั่งหรือการปฏิบัติดังกล่าวให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทราบ
ข้อ ๖ ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการตามกฎ ก.พ.อ. นี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.พ.อ. ภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบหรือวันที่ถือว่าทราบคําสั่งให้ออกจากราชการตามข้อ ๕
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ประธาน ก.พ.อ.
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.พ.อ. ฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ บัญญัติให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการได้ ให้ผู้มีอํานาจตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ. กําหนด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตลอดจนให้ทางราชการได้มีโอกาสหมุนเวียนกําลังคนที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่ามาทําหน้าที่แทน จึงจําเป็นต้องออกกฎ ก.พ.อ. นี้
กฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล พ.ศ. ๒๕๕๘ ดูรายละเอียด
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14 กรกฎาคม 2558
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ (14ก.ค.) กฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล พ.ศ. ๒๕๕๘
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔ (๔) และมาตรา ๕๗ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ก.พ.อ. จึงออกกฎ ก.พ.อ. ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กฎ ก.พ.อ. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดออกจากราชการ เพื่อรับบําเหน็จบํานาญเหตุทดแทนกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล ในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการนั้น ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาจากผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเป็นหลัก และให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาดําเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนดในกฎ ก.พ.อ. นี้
ข้อ ๓ เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนดตามมาตรา ๑๐ แล้ว เห็นว่า ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดมีผลการปฏิบัติราชการในระดับที่ต้องให้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้แจ้งผู้นั้นทราบเกี่ยวกับผลการประเมินพร้อมทั้งกําหนดให้ผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยให้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยกําหนดเป้าหมายในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการให้ชัดเจน เพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการครั้งต่อไป การประเมินผลการปฏิบัติราชการและการพัฒนาปรับปรุงตนเองของข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ให้มีระยะเวลาไม่เกินสามรอบการประเมินในกรณีที่ผู้ถูกประเมินเห็นว่าการประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้บังคับบัญชา มีความไม่เป็นธรรม อาจทําคําคัดค้านยื่นต่อผู้บังคับบัญชารวมไว้กับผลการประเมินเพื่อเป็นหลักฐานได้
ข้อ ๔ เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองตามข้อ ๓ แล้ว ปรากฏว่าผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ให้รายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ เมื่อได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ อาจดําเนินการดังต่อไปนี้
(๑) กรณีข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้รับการประเมินประสงค์จะออกจากราชการ ก็ให้สั่งให้ออกจากราชการ
(๒) สั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองอีกครั้งหนึ่งโดยทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองเป็นครั้งที่สอง หรือ
(๓) สั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการกรณีผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ มีคําสั่งตามวรรคสอง (๒) ให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นเข้ารับการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยให้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาจัดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทําคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองโดยกําหนดเป้าหมายในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการให้ชัดเจนเป็นครั้งที่สองเพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการครั้งต่อไป เมื่อผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติราชการ
ของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเองในครั้งที่สองแล้ว ปรากฏว่าผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการตามคํามั่นในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง
ให้รายงานผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ เพื่อสั่งให้ข้าราชการพลเรือน
ในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการ
ข้อ ๕ เมื่อผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ มีคําสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการตามข้อ ๔ แล้ว ให้รายงานสภาสถาบันอุดมศึกษาทราบ ในกรณีที่สภาสถาบันอุดมศึกษาเห็นว่าคําสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมและมีมติเป็นประการใด ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา ๒๘ ปฏิบัติให้เป็นไปตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติ และให้แจ้งคําสั่งหรือการปฏิบัติดังกล่าวให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นทราบ
ข้อ ๖ ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการตามกฎ ก.พ.อ. นี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.พ.อ. ภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบหรือวันที่ถือว่าทราบคําสั่งให้ออกจากราชการตามข้อ ๕
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ประธาน ก.พ.อ.
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.พ.อ. ฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ บัญญัติให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการได้ ให้ผู้มีอํานาจตามมาตรา ๒๘ หรือสภาสถาบันอุดมศึกษาสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้นั้นออกจากราชการทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ. กําหนด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตลอดจนให้ทางราชการได้มีโอกาสหมุนเวียนกําลังคนที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่ามาทําหน้าที่แทน จึงจําเป็นต้องออกกฎ ก.พ.อ. นี้
กฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการ กรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล พ.ศ. ๒๕๕๘ ดูรายละเอียด
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 14 กรกฎาคม 2558
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตร
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมทางหลวงชนบท รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 111 อัตร
กรมชลประทาน เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 64 อัตรา
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการ 75 อัตรา
กองทัพบก เปิดรับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก 2,394 อัตรา
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!