สพฐ.เรียกคืนแท็บเล็ต 1,000,000 เครื่อง หลังพบ 10 ปีใช้เงินแสนล้าน แต่ไม่ได้ผล
นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
สพฐ.เรียกคืนแท็บเล็ต 1 ล้านเครื่อง มาไว้ห้องเรียนเด็กห่างไกล ไม่มีแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนส่วนตัว เข้าถึงระบบคลังสื่อการเรียนการสอน และจัดงบ 1,200 ล้านบาท พัฒนาห้องเรียนศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้เข็มแข็ง แทนการพัฒนาห้องเรียนคอมพิวเตอร์ หลังพบ 10 ปีใช้เงินแสนล้าน แต่ไม่ได้ผล
นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และนายกมล รอดคล้าย เลขาฯ กพฐ. เพื่อขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณโครงการจัดหาห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 1,200 ล้านบาท รวมทั้งมีมติเรียกคืนแท็บเล็ต โครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ที่แจกให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาขั้นปีที่ 1 และมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2555 และ 2556 จำนวนกว่า 1 ล้านเครื่อง กลับมาโดยขณะนี้ สพฐ.แจ้งไปยังโรงเรียนต่างๆ แล้ว เพื่อให้นำแท็บเล็ตตรวจสอบสภาพ และนำไปไว้ประจำห้องเรียนรองรับเด็กที่ไม่มีแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนส่วนตัว
ส่วนงบประมาณ 1,200 ล้านบาท จะมีการดำเนินการใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนและเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาว เทียมของโรงเรียนวังไกลกังวล วงเงินประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งจะเอื้อประโยชน์แก่โรงเรียนสังกัด สพฐ. 15,365 โรง ที่รับถ่ายทอดการสอนในโครงการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และส่วนที่สอง จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนปลายทางนำไปบริหารจัดการ อาทิ การกั้นห้องโดยใช้ผนังเบา จัดซื้ออุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณ ทัมบ์ไดรฟ์จัดเก็บข้อมูล เป็นต้น
รองเลขาฯ กพฐ.กล่าวว่า การจัดห้องคอมพิวเตอร์ทำมากว่า 10 ปีแล้วใน 2 หมื่นกว่าโรงเรียน ใช้เงินไปกว่าแสนล้านบาท ซึ่งเมื่อมาพิจารณาดูความคุ้มค่าในเวลานี้ ก็เห็นแล้วว่าไม่คุ้ม เด็กได้ใช้เรียนอย่างน้อยวันละชั่วโมง ขณะที่สื่อเทคโนโลยีก็ไม่รองรับจึงไม่มีความจำเป็น ประกอบกับเวลานี้ สพฐ.มีการเรียนการสอนผ่านระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งมีคลังสื่อการเรียนรู้ใหม่ๆ มากมายที่จะรองรับ และในอนาคตก็จะอนุญาตให้นักเรียนนำแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนเข้ามาใช้ในห้อง เรียนได้ ซึ่งเด็กจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบที่เตรียมไว้ได้ทันที และครูก็สามารถสั่งการบ้านทางนี้ได้ทันทีเช่นกัน
สำหรับงบประมาณจัดซื้อแท็บเล็ตยังเหลืออยู่ประมาณ 5,800 ล้านบาท ซึ่ง สพฐ.จะนำมาจัดสรรให้โรงเรียนเพื่อนำไปจัดหาอุปกรณ์รับสัญญาณประจำห้องเรียน ในโรงเรียนที่ยังขาดแคลน ห้องเรียนละ 48,000 บาท โดยโรงเรียนหนึ่งจะมีกี่ห้องนั้นจะคำนวณจากจำนวนนักเรียนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รมว.ศธ.เห็นด้วยกับการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวแล้ว ซึ่ง สพฐ.จะไปเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป.
ที่มา http://www.thaipost.net
นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และนายกมล รอดคล้าย เลขาฯ กพฐ. เพื่อขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณโครงการจัดหาห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 1,200 ล้านบาท รวมทั้งมีมติเรียกคืนแท็บเล็ต โครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ที่แจกให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาขั้นปีที่ 1 และมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2555 และ 2556 จำนวนกว่า 1 ล้านเครื่อง กลับมาโดยขณะนี้ สพฐ.แจ้งไปยังโรงเรียนต่างๆ แล้ว เพื่อให้นำแท็บเล็ตตรวจสอบสภาพ และนำไปไว้ประจำห้องเรียนรองรับเด็กที่ไม่มีแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนส่วนตัว
ส่วนงบประมาณ 1,200 ล้านบาท จะมีการดำเนินการใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนและเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาว เทียมของโรงเรียนวังไกลกังวล วงเงินประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งจะเอื้อประโยชน์แก่โรงเรียนสังกัด สพฐ. 15,365 โรง ที่รับถ่ายทอดการสอนในโครงการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และส่วนที่สอง จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนปลายทางนำไปบริหารจัดการ อาทิ การกั้นห้องโดยใช้ผนังเบา จัดซื้ออุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณ ทัมบ์ไดรฟ์จัดเก็บข้อมูล เป็นต้น
รองเลขาฯ กพฐ.กล่าวว่า การจัดห้องคอมพิวเตอร์ทำมากว่า 10 ปีแล้วใน 2 หมื่นกว่าโรงเรียน ใช้เงินไปกว่าแสนล้านบาท ซึ่งเมื่อมาพิจารณาดูความคุ้มค่าในเวลานี้ ก็เห็นแล้วว่าไม่คุ้ม เด็กได้ใช้เรียนอย่างน้อยวันละชั่วโมง ขณะที่สื่อเทคโนโลยีก็ไม่รองรับจึงไม่มีความจำเป็น ประกอบกับเวลานี้ สพฐ.มีการเรียนการสอนผ่านระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งมีคลังสื่อการเรียนรู้ใหม่ๆ มากมายที่จะรองรับ และในอนาคตก็จะอนุญาตให้นักเรียนนำแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนเข้ามาใช้ในห้อง เรียนได้ ซึ่งเด็กจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบที่เตรียมไว้ได้ทันที และครูก็สามารถสั่งการบ้านทางนี้ได้ทันทีเช่นกัน
สำหรับงบประมาณจัดซื้อแท็บเล็ตยังเหลืออยู่ประมาณ 5,800 ล้านบาท ซึ่ง สพฐ.จะนำมาจัดสรรให้โรงเรียนเพื่อนำไปจัดหาอุปกรณ์รับสัญญาณประจำห้องเรียน ในโรงเรียนที่ยังขาดแคลน ห้องเรียนละ 48,000 บาท โดยโรงเรียนหนึ่งจะมีกี่ห้องนั้นจะคำนวณจากจำนวนนักเรียนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รมว.ศธ.เห็นด้วยกับการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวแล้ว ซึ่ง สพฐ.จะไปเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป.
ที่มา http://www.thaipost.net
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แสดงความคิดเห็น :
- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
ศูนย์ข่าวสารงานราชการ ข่าวเปิดสอบราชการ ตำแหน่งงานว่างอัพเดทให้ทุกวัน ติดตามที่นี่ www.jobthaidd.com
ข่าวที่น่าสนใจตอนนี้
กรมทางหลวงชนบท เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 63 อัตรา
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดรับสมัครสอบบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 143 อัตรา
กรมป่าไม้ เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 30 อัตรา
เข้าระบบแอป 'ทางรัฐ' ไม่ได้ ไม่มีปุ่มสมัครสมาชิก วิธีแก้มาแล้ว
ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ
หนังสือติวสอบ ก.พ. พร้อมติวและเฉลยข้อสอบจริง ก.พ. (ภาค ก) 67
สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก (Paper & Pencil) ประจำปี 2567
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!
กรมทางหลวงชนบท เปิดรับสมัครสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 63 อัตรา
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดรับสมัครสอบบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 143 อัตรา
กรมป่าไม้ เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ 30 อัตรา
เข้าระบบแอป 'ทางรัฐ' ไม่ได้ ไม่มีปุ่มสมัครสมาชิก วิธีแก้มาแล้ว
ด่วน!! เปิดรับสมัครสอบราชการ
หนังสือติวสอบ ก.พ. พร้อมติวและเฉลยข้อสอบจริง ก.พ. (ภาค ก) 67
สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครสอบ ภาค ก (Paper & Pencil) ประจำปี 2567
กสถ.เตรียมเปิดรับสมัครสอบท้องถิ่น 2567 จำนวน 65 ตำแหน่ง 4,010 อัตรา แล้ว!!