งานราชการล่าสุด

ไฟเขียวสอนเกิน 4 ปีให้ "ตั๋วครู" อัตโนมัติ

21 มิ.ย. 2558 เวลา 07:09 น. 4,116 ครั้ง

ไฟเขียวสอนเกิน 4 ปีให้ "ตั๋วครู" อัตโนมัติ



นำเสนอข่าวโดย > ทีมงานจ๊อบไทยดีดี ดอทคอม
บอร์ดคุรุสภาโละใบผ่อนผัน 90 วันยืดเป็น 2 ปี n“เกษม” ยื่นลาออกที่ปรึกษา พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งปัจจุบันมีการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่หลากหลาย ทั้งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน 2 ปี ใบอนุญาตให้ปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ระยะเวลา 90 วัน โดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนต้องไปฝึกอบรม ให้ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู 9 มาตรฐาน ที่คุรุสภากำหนด หรือเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูหรือ ป. บัณฑิตเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งบอร์ดคุรุสภาเห็นว่าควรปรับให้เหลือแค่ 2 ใบ คือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และให้ยกเลิกใบอนุญาตปฏิบัติการสอน 90 วันเป็น 2 ปี แทน พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ครูที่ปฏิบัติหน้าที่สอนมานานเกิน 4 ปี อาทิ ครูในโรงเรียนเอกชนควรได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเลยเพราะถือว่ามีประสบการณ์ โดยมอบหมายให้นายกมล ศิริบรรณ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ไปพิจารณารายละเอียดและหลักเกณฑ์เพื่อนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบกรณีที่นายเกษม กลั่นยิ่ง ที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และนายสุรินทร์ อินทรรักษา รองเลขาธิการคุรุสภา ที่ลาออกไปเข้ารับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ส่วนรองเลขาธิการที่เหลืออีก 3 คนนั้น ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานคุรุสภาทำหนังสือแจ้งยุติการดำรงตำแหน่ง ตามคำสั่งเลิกจ้างนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.นี้ รวมทั้งไม่รับอุทธรณ์การเลิกสัญญาจ้างนายอำนาจด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบปัญหาการทุจริตภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่นายเกษมเป็นประธานกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฌาปณกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานต่างๆ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คงต้องรอผลการตรวจสอบก่อน หากหน่วยงานใดเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็สามารถเรียกมาให้ข้อมูลได้.

ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 20 มิถุนายน 2558

แชร์ข่าวนี้ ให้เพื่อนคุณ และติดตามเราได้ที่ Fanpage.


แสดงความคิดเห็น :

- กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพและไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย
- ห้ามมิให้ผู้ใดโพดขายสินค้าเด็ดขาด
- ข้อความโพสโดยสาธารณชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ติดตามข่าวบน Facebook กด Like เพื่อไม่พลาดข่าว !!!
^