แม้ในรายงานระบุว่า อาอูอาร์ สนใจย้ายไปเล่นในลีกอังกฤษมากกว่า แต่นักเตะไม่ปิดโอกาสโยกไปค้าแข้งในสเปน ซึ่งเชื่อว่า ลียง ตั้งค่าตัวไว้ที่ 15 ล้านยูโร และอยู่ที่การตัดสินใจของนักเตะจะวางอนาคตไว้เช่นไรหลังจากนี้โทมิยาสึ ได้รับบาดเจ็บจากเกมยูโรปา ที่ อาร์เซน่อล เปิดรังเฉือนชนะ ซูริค 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพลาดช่วยทีมในเกมลีกล่าสุดที่บุกชนะ เชลซี 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ ซาดิโอ มาเน่ อันดับ 3 คือ เควิน เดอ บรอยน์ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้อันดับ 4 และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ อันดับ 5
ตามรายงานจาก สปอร์ต ระบุว่า เชลซี ให้ความสนใจ บัลเด้ มากที่สุด โดยก่อนหน้านี้เคยพยายามเซ็นสัญญากับเขามาแล้วในปี 2019 ขณะที่มีข่าวลือว่า สิงห์บลูส์ ไม่พอใจกับตัวเลือกแบ็กซ้ายอย่าง ชิลเวลล์ และ มาร์ก กูกูเรย่าเกร็ดน่าสนใจก่อนเกม -เป็นการพบกันนัดที่ 221 ของทั้ง 2 ทีมในทุกรายการ โดย ลิเวอร์พูล ชนะ 106 นัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 58 นัด เสมอกันไป 56 นัด -ถือเป็นการพบกันในศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยครั้งแรกพบกันเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562 จบด้วยผลเสมอก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะจุดโทษ 5-4 -ลิเวอร์พูล แพ้ 4 จาก 6 เกมหลังที่ลงเล่นในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ รวมถึงการยิงจุดโทษให้ซิตี้ในปี 2019 -แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล ครั้งล่าสุดคือ เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ ซิตี้ ไม่แพ้ 5 นัดติด (ชนะ 2 เสมอ 3) โดย "เรือใบสีฟ้า" ไม่ชนะลิเวอร์พูลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 -นี่ถือเป็นเกมการแข่งขันครั้งที่ 25 ระหว่าง 2 กุนซืออย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่โคจรมาเจอกัน ซึ่งคล็อปป์ชนะ 9 ครั้งและเสมอกันไป 7 ครั้ง (ทั้งนี้รวมถึงโปรแกรมที่ตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ) -นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ที่มีการจัดการแข่งขันนอกเวมบลีย์ โดยในครั้งนั้นจัดที่ วิลล่า ปาร์ค และเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะเชลซี 3-2 -ลิเวอร์พูล คว้าถ้วย คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มากเป็นอันดับ 3 ที่ 15 ครั้ง น้อยกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ไป 21 ครั้งและ อาร์เซน่อล ที่ได้ไป 16 ครั้ง ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์รายการนี้ไป 6 ครุั้ง
ทัพโอแอลเริ่มต้นได้ดีออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 2 อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ไหลให้ เตเต้ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายในเขตโทษตุงตาข่ายกระนั้นตามรายงานจาก เลกิ๊ป เผยว่าปัญหาสำคัญในฝั่ง โมนาโก คือการพิจารณาค่าแรง 7 ล้านยูโรต่อปีของ ราบิโอต์ ซึ่งเป็นเงินจำนวนที่สูงมากทำให้ทีมดังจากลีก เอิง ยังไม่ขยับตัวเต็มที่