ส่วนประเภทแอธเลติกฟิสิค พงศ์ ผาลา และ เพาะกายหญิง จิรฐา จุฑานิชกานต์ และศิรินทิพย์ อินทรีย์หลังจบการแข่งขัน สุเบญรัตน์ เปิดเผยว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ยากและลำบากที่สุดของตนเอง เพราะช่วงที่ผ่านมา ต้องเข้ารับการอบรมข้าราชการตำรวจ จึงทำให้มีเวลาฝึกซ้อมไม่มากเท่าไหร่นัก สำหรับตนก็เพิ่งจะมาซ้อมได้จริงจังเพียง 1 เดือนเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาได้เหรียญทอง จึงถือว่าน่าพอใจ แม้สถิติจะไม่ดีอย่างที่หวัง ส่วนแชมป์ซีเกมส์ก็หวังจะรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด ส่วนจะทำได้นานแค่ไหน ก็ต้องดูสถานการณ์เป็นครั้งๆไป
เกมนัดสุดท้าย “ทีมตะกร้อสาวไทย” ดีกรีแชมป์ 9 สมัย ลงสนามดวลกับ มาเลเซีย เกมนี้ “ไทย” ยังใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับนัดที่สอง มี “อุ้ม ปืนใหญ่” อติกานต์ คงแก้ว ลงเสิร์ฟ, มัสยา ดวงศรี เป็นตัวชง และ สมฤดี ปรือปรัก ลงฟาด และมี วิภาดา จิตพรวน และ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เป็นสำรองข่าวแนะนำ
ไหม ธนีกานต์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทยที่ทำคนเดียว 3 ประตูในเกมกับลาว เปิดเผยว่า “เกมวันนี้ (กับลาว) เราทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า ต้องการชนะ เราต้องการทำสกอร์ให้เยอะที่สุด เพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม เพราะหากเราเจอเวียดนามในรอบรองฯ ก็จะทำให้เรากดดันเพราะแฟนบอลของเขาเยอะ ถ้าเลือกได้ก็อยากเจอกับฟิลิปปินส์ก่อน ส่วนเกมนี้เราโชคดีที่เมียนมาทำสกอร์ได้น้อย ทำให้เกมวันนี้เราคลายความกดดันลง และทุกคนในทีมก็ทำออกมาได้ดี”ทั้งนี้ คล็อปป์ รวมถึงทีมสต๊าฟเพิ่งต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ออกไปอีก 2 ปีหนือถึงปี 2026 เป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ประเภทหญิงเดี่ยว อิกา สเวียเทก มือ 1 ของโลกจากโปแลนด์ และเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ เอาชนะ ออนส์ จาเบอร์ จากตูนีเซีย 2-0 เซ็ต 6-2, 6-2 ซิวแชมป์ไปครอง พร้อมเป็นการกวาดแชมป์ทั้ง 5 รายการหลังสุดที่เธอลงแข่งขันมาทีม C ไทย ฐิติมา มหากุลศล ลงเสิร์ฟ และมี ศิรินันท์ เขียวปัก และ นิสา ธนะอรรถวุฒิ เป็นคู่หน้า เกมคู่นี้ สาวไทย ที่ชั้นเชิงเหนือกว่าเยอะ ไล่ฟาดเอาชนะ ลาว ไปได้สบายๆ 2-0 เซต 21-3,21-4 จากผลดังกล่าวทำให้ ทีมตะกร้อสาวไทย เอาชนะ มาเลเซีย ไปได้ 3-0 ทีม ผงาดคว้าเหรียญทอง ทีมชุดหญิง ไปครองได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน พร้อมทำสถิติเป็น ทีมตะกร้อหญิงชาติเดียวที่คว้าเหรียญทองในประเภทนี้นับตั้งแต่ที่มีบรรจุในการแข่งขันซีเกมส์มา 6 ครั้ง